สื่อรักสัมผัสหัวใจ 2

อ่านละคร สื่อรักสัมผัสหัวใจ 2 ตอนที่ 18 วันที่ 2 พ.ย. 56

กรกฎให้ลูกน้องสองคนตามป้าสุดใจไป ตัวมันเองไล่ตามเนตรสิตางศุ์หมายกำจัดด้วยมือตัวเอง

มันไล่จับเนตรสิตางศุ์ได้หมายกำจัดโดยไม่ต้องเสียกระสุน แต่ถูกหมอวรวรรธตามมากระโดดถีบจากข้างหลังจนมันกลิ้ง หมอรีบเข้าช่วยเนตรสิตางศุ์ที่ถูกหลังมือมันตบจนกระเด็นไปเลือดกบปาก ระหว่างนั้นกรกฎลุกขึ้นชักปืนจะยิงหมอแต่ถูกณัฐเดชยิงมาสองนัดจนเซแต่ลูกปืน ไม่ระคายผิวมัน

กรกฎหันเห็นณัฐเดช มันหัวเราะชอบใจว่ามากันพร้อมหน้าก็ดีแล้วจะได้จัดการเสียทีเดียวเลย



“ไอ้ หมอ...พาเนตรหนีไปก่อน ทางนี้ฉันจัดการเอง” ณัฐเดชตะโกนบอกหมอวรวรรธ หมอจึงประคองเนตรสิตางศุ์หนีไป เนตรสิตางศุ์ตะโกนบอกณัฐเดชให้ระวังตัวด้วย เธอร้องไห้ตามหมอไป

แต่หมอ กับเนตรสิตางศุ์ก็ถูกลูกน้องกรกฎยิงใส่ กระสุนเจาะต้นไม้เศษไม้พุ่งเข้าแทงแขนหมอ เนตรสิตางศุ์ช่วยดึงเสี้ยนไม้ออก บอกหมอให้เข้มแข็งแล้วฉีกแขนเสื้อตัวเองพันแผลให้

หมอวรวรรธตะลึงอึ้งกับความเด็ดเดี่ยวกล้าหาญของเนตรสิตางศุ์

“หมอห้ามเป็นอะไรนะคะ หมอต้องช่วยเนตรกับพี่ณัฐให้ได้ สู้ๆ!”

“ครับ สู้ๆ! อ๊ากกกก...” หมอร้องเพราะเจ็บแผลแต่กัดฟันสู้

ที่สำนักหมอผีสมคิด เบญจาในชุดแม่หมอเต็มยศ กำลังใช้พลังพิเศษบัญชาการลับอยู่ในห้องบัญชาการโดยมีหมอผีสมคิดรอฟังสิ่ง ที่เบญจาเห็นอยู่อย่างใจจดจ่อ

“ตอนนี้ไอ้สารวัตรณัฐเดชกับแฟนมันตามมาช่วย แต่พวกมันกำลังเสียเปรียบ”

“ดี!! กรกฎแกคงไม่พลาดนะ งานนี้ไอ้สารวัตรมันไม่สามารถเรียกพรรคพวกตำรวจมาช่วยได้เหมือนเคยฮ่าๆๆ”

เบญจาปักกริชลงที่รูปเนตรสิตางศุ์ รูปถูกเผากลายเป็นเถ้าอยู่ในอ่างไฟ หมอผีสมคิดพูดสะใจ “ถ้าเก็บนังเนตรได้คนนึง ก็เหมือนนังพวกซิกซ์เซ้นส์ถูกควักดวงตาจนบอด เมื่อไม่ครบห้าคน พลังพวกมันก็จะอ่อนลงทุกที”

“หนูจะไปกำจัดนังญาณินเอง!” พูดพลางเบญจาลุกขึ้นยืน ถูกสมคิดยกไม้เท้ากันไว้บอกว่ายังไม่ใช่ตอนนี้ เรามีงานใหญ่ของสำนักต้องทำก่อน

งานใหญ่ของหมอผีสมคิดคือ ทำให้นายภาคภูมิชนะคู่แข่งที่จะขึ้นเป็นผู้บริหารเบอร์หนึ่งของบริษัท มหึมา–ธนกิจกรุ๊ป เพราะประธานกรรมการผู้จัดการคนเก่าประกาศลาออกเนื่องจากปัญหาสุขภาพ

จากการเลือกตั้ง ปรากฏว่าคู่แข่งของภาคภูมิชนะไปเพียง 1 คะแนน ภาคภูมิถามอย่างไม่พอใจว่าจะจัดการอย่างไรเพราะตนจ่ายไปแล้ว 100 ล้านเพื่อช่วยให้ตนได้ตำแหน่งนี้

“เอาล่ะ เบญจาจะทำพิธีช่วยให้คุณได้สมหวังเดี๋ยวนี้แล้ว” หมอผีสมคิดบอกภาคภูมิ แล้วสมุนคนหนึ่งที่ยืนอยู่ติดผนังห้องข้างๆที่มีจอ LED อยู่ข้างหลัง พอหมอผีสมคิดพยักหน้า สมุนก็กดรีโมตเปิดทีวีทันที

ปรากฏภาพนักข่าวสาวกำลังรายงานพิธีต้อนรับประธานกลุ่มบริษัทมหึมาธนกิจกรุ๊ป คนใหม่ ที่กำลังจะแถลงการณ์เข้ารับตำแหน่ง แต่ขึ้นกล่าวได้เพียงแค่ “ขอบคุณมากครับที่ไว้...” เขาก็ตาตั้งหายใจไม่ออก จนทุกคนตกใจช่วยเหลือกันชุลมุน

“ว้าย...คุณโอภาสเป็นอะไรก็ไม่ทราบค่ะท่านผู้ชม ตอนนี้เหตุการณ์วุ่นวายไปหมด” นักข่าวสาวรายงานอย่างตกใจ

ที่ห้องประกอบพิธีสำนักหมอผีสมคิด คุณภาคภูมิและพวกที่ดูอยู่พากันแปลกใจ หันมองหมอผีสมคิดที่พูดด้วยหน้าภูมิใจมากว่า

“ไงครับ? ตำแหน่งประธานกรรมการผู้จัดการใหญ่ที่คุณอยากได้ ตกอยู่ในมือคุณสดๆต่อหน้าทุกคน”

ทันใดนั้น ก็มีโทร.เข้ามือถือภาคภูมิ เขาตอบรับด้วยใบหน้ายิ้มแย้มดีใจสุดๆว่า

“ฮัลโหล...ครับ...ผมเห็นแล้ว...ผมจะรีบเข้าบริษัทเดี๋ยวนี้” แล้วหันบอกพรรคพวก “ผมต้องรีบเข้าบริษัท ไปรักษาการประธานแทนไอ้โอภาสก่อนที่หุ้นบริษัทเราจะตก สำเร็จแล้ว เราทำสำเร็จ มหึมาธนกิจกรุ๊ปอยู่ในมือของเราแล้ว” เขาเอ่ยอีกว่า “มหัศจรรย์เหลือ

เชื่อไม่มีคำอธิบาย ผมไม่รู้จะหาคำบรรยายอะไรมาใช้กับคุณสองคน ฮ่ะๆๆแต่ผมทำนายได้ว่าสำนักของคุณจะต้องยิ่งใหญ่มีชื่อเสียงก้องโลกชัวร์” ภาคภูมิเอ่ยอย่างเลื่อมใสศรัทธา

เบญจากับหมอผีสมคิดมองหน้ากัน ไม่ได้ยินดียินร้ายนัก เพราะมีสิ่งที่ต้องการมากกว่านั้น!

ที่ห้องประชุมใหญ่บริษัทมหึมาธนกิจกรุ๊ป โอภาสนอนหายใจระรวยรอรถพยาบาล...ไม่มีใครเห็นว่า มีผีตายซากผู้หญิงกำลังคร่อมบีบคอเขาอยู่!

ooooooo

ที่ชายหาดพัทยา ณัฐเดชกำลังต่อสู้กับกรกฎเพื่อให้หมอวรวรรธพาเนตรสิตางศุ์หนี เนตรสิตางศุ์ใช้สัมผัสพิเศษของเธอให้เป็นประโยชน์

เธอเห็นบรรดาวิญญาณเร่ร่อนมากมายแถวนั้น บ้างชี้ทางหนี บ้างชี้ที่หลบซ่อนของลูกน้องกรกฎ จนหมอเข้าไปจัดการมันได้ อีกคนตกใจวิ่งหนี ถูกป้าสุดใจยิงวิ่งหนีเตลิดไป

ณัฐเดชต่อสู้กับกรกฎแต่ทำอะไรมันไม่ได้ หมอวรวรรธบอกว่าไอ้นี่มันหนังเหนียว ป้าสุดใจส่งปืนให้เนตรสิตางศุ์เธอรับไปเล็งเก้ๆกังๆ แต่พอยิงเปรี้ยงเดียว กระสุนบางนัดเจาะเข้าตามแขนตามขากรกฎจนเลือดไหลซิบๆ กรกฎตกใจรีบหนีไป

ที่แท้ป้าสุดใจมีของดี เพราะกระสุนที่ยิงกรกฎนั้น เป็นกระสุนลงอาคม!

นอกจากช่วยทำให้กรกฎต้องหนีไปแล้ว ป้าสุดใจยังเตือนสติเนตรสิตางศุ์กับณัฐเดชว่า พี่น้องกันมีอะไรคับข้องหมองใจก็ต้องเปิดอกคุยกัน ย้ำกับทั้งหมอวรวรรธ ณัฐเดชและเนตรสิตางศุ์ว่า “เรื่องบางเรื่องเราต้องแก้ไขด้วยการกระทำไม่ใช่คำพูด”

“กลับบ้านเรานะเนตร เรื่องอื่นเอาไว้เราค่อยคุยกัน ช่วยกันหาวิธีแก้ปัญหานะ กลับบ้านกับพี่ก่อน” ณัฐเดชชวน เนตรสิตางศุ์พยักหน้าอย่างว่าง่าย ณัฐเดชประคองน้องไปด้วยความดีใจ

แต่น่าเสียดาย ที่ความสัมพันธ์ระหว่างสุคนธรสกับไตรรัตน์ยังไม่อาจคืนดีกันได้ แม้โบตั๋นจะแกล้งขังทั้งสองไว้ในห้องขณะช่วยกันไปหาของขวัญแล้วก็ตาม

ooooooo

ญาณินอยู่ที่บริษัทซิกซ์เซ้นส์ ได้รับโทรศัพท์จากสุคนธรสอย่างอ่อนใจที่เพื่อนรักกับไตรรัตน์ยังไม่สามารถลง เอยกันได้อย่างมีความสุข แต่ก็มีข่าวดีว่าณัฐเดชกับหมอวรวรรธไปช่วยเนตรสิตางศุ์จากเงื้อมมือปีศาจ กรกฎได้

“นี่มันทำลายบริษัทซิกซ์เซ้นส์ของพวกเรา 5 คนยังไม่พอ ยังจะตามฆ่าตามล้างแค้นพวกเราทีละคนเลยรึไง” ญาณินพึมพำอย่างแค้นใจ ติณห์เองก็ปรารภว่าไม่รู้ว่าใครจะเป็นรายต่อไป

แล้วเหตุการณ์ก็มาถึงจริงๆ เมื่อเจ้าที่ที่ดูแลบริษัทซิกซ์เซ้นส์อยู่ถูกเบญจาส่งผีนักศึกษาสาวมาอ่อยจน เคลิ้มปล่อยให้ผีนักศึกษาสาวเข้าบ้าน ทันทีที่เข้าบ้านได้ ผีนักศึกษา สาวก็บีบคอเจ้าที่ทันที เปิดทางให้วิญญาณอาฆาตอีก3ตัวเข้าไปอย่างสบายๆ

ในวิญญาณอาฆาต 3 ตัวนั้น มีวิญญาณของนางรำด้วย วิญญาณผีนางรำเข้าสิงป้าออ ติณห์กับญาณินจะไปดูป้าออก็ถูกวิญญาณอาฆาต 2 ตัวดักไว้

“วิญญาณนั่นเข้ามาในบ้านได้ยังไง เจ้าที่อยู่ไหนเนี่ย” ญาณินมองหาเจ้าที่

“หึๆ ผีเจ้าที่กระจอก ขวางอะไรฉันได้ มันเองยังเอาตัวไม่รอด” เบญจาหัวเราะเยาะบอกว่าถึงเวลาที่ตนจะเอาคืนแล้ว แต่ก็มีข้อต่อรองว่า “แต่หนูยังให้โอกาสพี่ติณห์นะ ทิ้งญาณินมาซะ เดินมาหาหนู กลับมาหาหนูแล้วพี่จะปลอดภัยจากไอ้ผีอาฆาตสองตัวนี้”

“ฝันไปเถอะเบญจา เราจะไม่มีวันได้อะไรจากพี่เลย I hate you!”

“ฆ่ามัน!” เบญจาสั่งเหี้ยม สิ้นเสียงสั่งวิญญาณทั้งสองก็หายไปจากหลังเบญจาเข้าเล่นงานติณห์กับญาณินทันที

แต่เพราะติณห์มีเขี้ยวเสือที่คอช่วยป้องกันฤทธิ์จากภูตผีไว้ และญาณินก็มียันต์กันผีที่สุคนธรสให้ไว้ต่อสู้กับวิญญาณอาฆาตทั้งสอง ติณห์บอกญาณินไม่ต้องห่วงตนให้รีบไปดูป้าออก่อน

ป้าออถูกวิญญาณนางรำเข้าสิง กำลังฟ้อนเล็บเอาปลอกเล็บนางรำแทงเข้าที่ท้องตัวเอง ญาณินโยนผ้ายันต์เข้าไปทำให้วิญญาณนางรำที่สิงร่างป้าออกลิ้งออกไปชนผนัง เนื้อตัวพุพองแสบร้อน ส่วนป้าออกลับมาอยู่ในชุดปกติทรุดอยู่ที่พื้น

ญาณินเข้าประคองป้าออ ช่วยกันสวดมนต์สู้กับพลังอาถรรพ์ของวิญญาณทั้งสาม ที่ถาโถมเข้าทำร้ายไม่หยุด จนป้าออกระอักเลือดออกมาเพราะเหนื่อยมาก ญาณินบอกป้าออให้พยายามสวดมนต์อีก แต่ป้าออหมดแรงซบหน้ากับไหล่ญาณิน

เจ้าที่ต่อสู้กับวิญญาณนักศึกษาสาวจนเสื้อผ้าฉีกขาดหลุดลุ่ย มาเจอวิญญาณอาฆาตกำลังรุมเล่นงานญาณินกับป้าออ เจ้าที่พุ่งเข้าช่วย เตะจนวิญญาณอาฆาตกระเด็นทะลุผนังบ้านหายไป เป็นจังหวะที่ติณห์ดิ้นหลุดจากเบญจาวิ่งมาหาญาณินกับป้าออ

แต่เบญจายังตามมาอีก ถูกเจ้าที่ต่อต้าน ก็ท่องคาถา เกิดฝูงอีกาบินมารุมทึ้งเจ้าที่จนวิญญาณเจ้าที่ถูกกระชากแตกออกเป็นเสี่ยงๆ สลายไปต่อหน้าต่อตาญาณินแล้วฝูงอีกาก็หายไป เหลือแต่กองเสื้อผ้าของเจ้าที่

“เบญจา!” ญาณินแค้นใจ มองไปที่ประตู แต่เบญจาหายไปแล้ว มีแต่เสียงประกาศอาฆาตแค้น...

“ฉันจะต้องฆ่าแกให้ได้นังญาณิน!!”

ooooooo

กรรัมภาไปวิ่งออกกำลังกายที่สวนสาธารณะริมบึงในหมู่บ้านไฮโซที่ตัวเองอยู่ เธอวิ่งไปก็ตะโกนให้กำลังใจตัวเองไป

“เราอาจจะล้มวันนี้ แต่เราจะลุกขึ้นสู้ใหม่ เจ๊ณิน ยัยรส ยัยเนตร ยัยกรรณ เข้มแข็งไว้นะ สักวันพวกเราทั้ง 5 คนจะต้องกลับมารวมกันอีกครั้งนึง ฉันจะรอพวกแก จุนจี...รู้ไหมแก้มคิดถึงมาก...ถึงมากที่สุดดดด...”

จู่ๆ จุนจีก็มาวิ่งตามหลังเธอแล้ววิ่งแซงไป กรรัมภาดีใจสุดๆ ถามว่ามาได้ยังไง? จุนจีแกล้งหยอกว่าก็เธอบ่นคิดถึงตนก็ต้องมา

ลีจองกุ๊กนั่งซุ่มดูอยู่ในรถ ส่งบอดี้การ์ด 3 คนให้ตามจุนจีห่างๆพอ เพราะจุนจีต้องการความเป็นส่วนตัวอย่าได้รบกวนเด็ดขาด

แล้วก็เกิดเหตุให้ตื่นเต้นเมื่อนักข่าวและแฟนคลับของจุนจีมาจากไหนไม่มีใคร รู้ เห็นเอาตอนวิ่งไล่ตามจุนจีไปอย่างคลั่งไคล้ จุนจีกับกรรัมภาตกใจมาก พอดีวิ่งมาถึงคลับเฮาส์ของหมู่บ้าน กรรัมภาจึงพาจุนจีหลบเข้าไปในนั้น บอกคนดูแลว่าอย่าให้ใครเข้ามา คนดูแลจึงปิดประตูได้ทันหวุดหวิด บรรดาแฟนคลับเลยได้แต่ออกันอยู่หน้าคลับเฮาส์เพราะเจ้าหน้าที่บอกว่า

“เข้าไม่ได้นะคะ นี่ที่ส่วนบุคคลค่ะ เข้าไม่ได้ค่ะคุณ เข้าไม่ได้...”

หลบเข้าไปอยู่ในคลับเฮาส์แล้ว จุนจีกับกรรัมภานั่งดื่มกาแฟกันในห้องเฉพาะ กรรัมภาตั้งข้อสังเกตว่า

“ต้องเกิดเรื่องอะไรขึ้นแน่ๆเลย ไม่งั้นนักข่าวกับแฟนคลับไม่ตามล่าเราขนาดนี้หรอกปาร์คจุนจี”

จุนจีปลอบใจกรรัมภาว่าไม่ต้องกลัว ตนจะไม่ให้เธอต้องเจ็บตัวเพราะตนอีกเด็ดขาด

“จุนจี...ฉันเข้าใจคุณแล้ว...” จุนจีถามว่าเข้าใจอะไร? “เข้าใจว่าเป็นซุปตาร์มันลำบากแค่ไหน ทำตามใจตัวเองไม่ได้ จะคบกับใคร โดยเฉพาะคบกับติ่งแฟนคลับ มันเป็นข้อห้าม เราดูจุนจีแต่ตามืออย่าต้องเดี๋ยวเมนสุดที่รักของเราจะเสียชื่อ เหมือนกับที่ฉันทำให้จุนจีเดือดร้อนอยู่ตอนนี้”

จุนจีดึงกรรัมภาไปกอดไว้ด้วยความรู้สึกดีๆ พูดอย่างซึ้งใจว่า

“คุณเข้าใจผมก็ดีแล้ว ขอให้คุณเข้าใจผมตลอดไปก็แล้วกัน เพราะถ้าเราจะคบกัน เรายังต้องเจออุปสรรคข้างหน้าอีกเยอะ ตราบใดที่ผมยังเป็นปาร์คจุนจีอยู่

“คุณก็ต้องเป็นปาร์คจุนจีต่อไปซี เป็นปาร์คจุนจีที่พวกเราแฟนคลับภูมิใจ ถ้าโลกนี้ไม่มีปาร์คจุนจี พวกเราแฟนคลับจะมีความสุขได้ยังไง” กรรัมภากอดจุนจีได้อย่างแสนรัก

ขณะนั้นเอง เสียงมือถือของจุนจีดังขึ้น เป็นสายจากลีจองกุ๊กนั่นเอง

“ฮัลโหล...จองกุ๊ก ฉันหลบอยู่ที่คลับเฮาส์ มารอรับฉันด้านหลังนะ ฉันจะพาคุณแก้มออกไป!”

ooooooo

ไม่นาน รถตู้ของจุนจีก็มาจอดที่หลังคลับเฮาส์ ลีจองกุ๊กลงมาเปิดประตูเร่ง

“เร็วเข้า จุนจี...เร็วๆ”

“จุนจีอยู่นั่น!” แฟนคลับคนหนึ่งตาไวร้องบอก ทั้งนักข่าวและแฟนคลับก็กรูกันมาที่หลังคลับเฮาส์

รถตู้ของจุนจีขับเอี๊ยดออกไปทันที!

ขณะนั่งไปในรถ ลีจองกุ๊กบ่นว่า “เห็นไหมจุนจี กุ๊กบอกแล้วว่าอย่ามา...อย่ามา ทำไมไม่เชื่อกุ๊ก...ทำไม...”

“บ่นเป็นตาแก่ไปได้ มีอะไรเดี๋ยวแกกับฉันค่อยมาเคลียร์กัน ตอนนี้รีบพาคุณแก้มไปส่งที่บ้านก่อนที่นักข่าวจะตามมา”

“หึ...คิดว่าจะหนีพ้นเหรอ อย่าว่าแต่กลับบ้านเลยจุนจี ต่อให้นายกับคุณแก้มขุดหลุมลงไปขดอยู่ใต้ดินแบบกิ้งกือ พวกนักข่าวแฟนคลับก็จะตามไปขุดๆๆ ลากพวกนายขึ้นมา”

“ตกลงมันเกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่คุณจองกุ๊ก” กรรัมภาถาม

“เรื่องอะไรเหรอครับ นี่ไง!” ลีจองกุ๊กเปิดไอแพดให้ดู จุนจีกับกรรัมภาถึงกับช็อก! มันเป็นภาพนิ่งที่ถูกแอบถ่ายด้วยมือถือ ตอนจุนจีออกมาส่งกรรัมภาที่หอบเสื้อผ้าตัวเองออกจากห้องพักของจุนจีในวัน นั้น!

ooooooo

ที่บ้านเนตรสิตางศุ์ ขณะหมอวรวรรธนอนหลับปุ๋ยอยู่ที่โซฟานั้น สุพิชชาเปิดประตูเข้ามายืนมองแววตาจิตๆ แล้วเดินไปวางกระเป๋าหลุยส์ใส่เสื้อผ้าไว้โต๊ะข้างๆ จะเดินไปหาหมอวรวรรธ แต่แล้วก็ชะงักเมื่อเห็นเนตรสิตางศุ์เดินเข้ามา

เนตรสิตางศุ์เดินมาหยุดมองหมอวรวรรธแววตาอ่อนโยน บ่นยิ้มๆ

“ดูซิ ให้ขึ้นไปนอนดีๆบนห้องก็ไม่ยอม ติดนิสัยหมอชอบนอนตามโต๊ะเก้าอี้ที่โรงพยาบาล” แล้วยื่นมือไปปลุก “สายแล้วค่ะหมอ ตื่น...อุ๊ย!” เธออุทานเมื่อถูกหมอคว้ามือไปกุม

“ผมโดนพักงาน ขอนอนต่ออีกหน่อยนะ” หมออ้อนทั้งที่ยังหลับตา

อ่านละคร สื่อรักสัมผัสหัวใจ 2 ตอนที่ 18 วันที่ 2 พ.ย. 56

บทประพันธ์โดย:ณารา/ร่มแก้ว/ซ่อนกลิ่น/เก้าแต้ม/แพรณัฐ จากบทละครโทรทัศน์ทางช่อง 3
บทโทรทัศน์ : ทิพย์ธิดา ศรัทธาทิพย์, สุธิสา วงษ์อยู่, เบญจมาศ ดาลหิรัญรัตน์, ศักดิ์ชาย เกียรติปัญญาโอภาส, โรจนินทร์ และ ณัชชานิษฐ์ จิรรุ่งโรจน์
สื่อรักสัมผัสหัวใจ 2กำกับการแสดง : ตระกูล อรุณสวัสดิ์
สื่อรักสัมผัสหัวใจ 2 ผลิต : ค่ายชลลัมพี โปรดั๊กชั่น จำกัด
สื่อรักสัมผัสหัวใจ 2 แนวละคร : คอเมดี้
สื่อรักสัมผัสหัวใจ 2 วันเวลาออกอากาศทุกวันศุกร์ -เสาร์ และอาทิตย์ เริ่มเวลา 20.15
ติดตามชมสื่อรักสัมผัสหัวใจ 2 ได้ทางไทยทีวีสีช่อง 3
ที่มา ไทยรัฐ

อ่านละคร สื่อรักสัมผัสหัวใจ 2 ตอนที่ 17 วันที่ 1 พ.ย. 56


“คุณ แผนยุทธปลอดภัยแล้วนะครับ แต่สมองได้รับความกระทบกระเทือน รวมถึงเส้นประสาทบางส่วนด้านซีกขวา ดังนั้น แขนและขาอาจจะขยับลำบากหน่อย โชคดีที่ตกลงมาไม่สูงนัก ไม่งั้นอาจจะอันตรายกว่านี้”

หมอวรวรรธบอกพงอินทร์ที่ซักถามว่า

การคลุ้มคลั่งของแผนยุทธ มีสาเหตุจากอาการทางประสาท ในกระแสเลือดพบว่ามีปริมาณของยานอนหลับเกินขนาดส่งผลให้เห็นภาพหลอนและคลุ้ม คลั่ง บางขณะอาจจำคนอื่นไม่ได้ด้วย แต่แพทย์ประจำตัวของแผนยุทธบอกว่าเขาไม่เคยมีประวัติใช้ยานอนหลับเลย ทุกคนเลยลงความเห็นว่า แผนยุทธถูกวางยา!

“ถ้าไอ้พี่แผนโดนแบบนี้ แสดงว่าต้องมีคนร้ายกว่าซ่อนอยู่” พงอินทร์ฟันธง กรรณาเสนอว่าเราคงต้องพึ่งณัฐเดช หมอวรวรรธกลืนน้ำลายฝืดคอเมื่อต้องเกี่ยวข้องกับณัฐเดช เพราะตัวเองมีคดีพาเนตรสิตางศุ์หนีไปยังไม่ได้เคลียร์กัน


ooooooo

ณัฐเดชกำลังไปหาข้อมูลของพิมพลอยที่โรงพยาบาลจิตเวช เจอหมอที่เคยรักษาพิมพลอยบอกว่าเธอออกจากโรงพยาบาลไปได้ 5 ปีแล้ว ณัฐเดชถามว่า แสดงว่าเธอหายเป็นปกติดีแล้วใช่ไหม

“จะว่าหายก็ไม่ถึงกับหายขาดนะ แค่ดีขึ้นมาก จนมองผิวเผินเหมือนคนปกติอย่างคุณกับหมอนี่แหละ แต่ยังต้องกินยาสม่ำเสมอ เพราะถ้าหากมีอะไรมากระทบจิตใจ อาการก็อาจจะกำเริบขึ้นมาได้ทันที”

ณัฐเดชถามว่าตอนนี้เธอไปอยู่ที่ไหน หมอบอกว่าอยู่กับพี่สาวที่เป็นคนมารับตัวไป

“พี่สาว...ก็คุณช่อเพชรน่ะซิครับ!”

“พิมพลอยน่ะเป็นเด็กกำพร้าน่าสงสาร พอพ่อแม่ตาย ญาติพี่น้องก็ไม่มีใครเอาจนต้องมาโตเป็นสาวอยู่ที่นี่ แต่คุณเชื่อรึเปล่า พิมพลอยน่ะเรียนจบปริญญาตรีทางอินเตอร์เน็ตนะ” ณัฐเดชถามว่าแล้วอะไรทำให้เธอมีอาการทางจิต? “คุณรู้ใช่ไหม พิมพลอยกับคุณช่อเพชรเป็นพี่น้องคนละพ่อกัน”

หมอเล่าอย่างสลดใจว่าพิมพลอยถูกพ่อเลี้ยงล่วงละเมิดทางเพศตอนเด็กอยู่หลายปี โดยที่แม่ไม่รู้แต่ช่อเพชรรู้และคอยปกป้องช่วยเหลือน้อง หมอบอกว่า “จิตใจของพิมพลอยถูกกระทบกระเทือนอย่างหนักจนถึงขั้นเกลียดผู้ชายโดยเฉพาะ ผู้ชายเจ้าชู้!”

ณัฐเดชฟังแล้วอึ้ง! ถามหมอว่าแล้วตอนนี้รู้ไหมว่าทั้งสองคนอยู่ที่ไหน หมอแนะให้ไปหาบ้านญาติที่เคยรับช่อเพชรไปอุปการะตั้งแต่เด็กดู
ออกจากหมอมาแล้ว ณัฐเดชจึงนึกได้ว่ามีสายของกรรณาเข้า แต่เวลานั้นเขาถูกคนไข้ของโรงพยาบาลเดินชนเลยไม่ได้รับสาย นึกได้กรรณาก็โทร.เข้ามาพอดี เขาขอโทษที่ติดธุระเลยไม่ได้รับสาย ถามว่ามีอะไรหรือเปล่าถึงโทร.มาหลายครั้ง

“พี่ณัฐรีบมานะคะ ป่านนี้ฤทธิ์ยากล่อมประสาทของตาด็อกเตอร์น่าจะหมดฤทธิ์พูดจารู้เรื่องแล้วค่ะ เดี๋ยวเจอกัน”

กรรณากดวางสาย แล้วทั้งหมดก็เดินมาที่หน้าห้องแผนยุทธ พงอินทร์กำลังจะเปิดประตู ก็พอดีน้ำหนึ่งผลักประตูออกมาบอกทุกคนหน้าตื่นว่า “ช่วยด้วย...คุณแผน-ยุทธหยุดหายใจ!!”

หมอวรวรรธบอกพงอินทร์ให้รีบตามหมอ ตัวเองเข้าไปปั๊มหัวใจให้แผนยุทธด้วยมือ โดยมีกรรณายืนลุ้นอยู่ใกล้ๆ

ที่แท้น้ำหนึ่งแอบเข้าไปในห้องแผนยุทธ เธอแต่งทรงผมและใส่แว่นกรอบใหญ่คลับคล้ายคลับคลาช่อเพชร

พอแผนยุทธลืมตา เขาเริ่มโวยวาย น้ำหนึ่งก็หักท่อออกซิเจนจากเครื่องช่วยหายใจจนแผนยุทธหายใจไม่ออกแน่นิ่งไป

ooooooo

หมอและพยาบาลพร้อมเครื่องมือเข้าไปปั๊มหัวใจแผนยุทธ ส่วนพงอินทร์ กรรณา หมอวรวรรธและน้ำหนึ่งยืนรออยู่หน้าห้อง

ตำรวจท้องที่รุดมาที่โรงพยาบาล ณัฐเดชหยุดคุยกับพวกพงอินทร์อยู่หน้าห้อง

“อีตาแผนยุทธนี่ดวงแข็งจริงๆรอดมาได้หวุดหวิดค่ะพี่ณัฐ ดีนะที่หมอวรวรรธช่วยปั๊มหัวใจด้วยมือก่อนหมอจะเอาเครื่องมือมา ไม่งั้น...” กรรณาเล่าอย่างอดหวาดเสียวไม่ได้

ณัฐเดชหันมองหมอวรวรรธอย่างมีอะไรเคืองๆอยู่ ในใจ หมออ่านสายตาออก ต่างเริ่มหน้าตึงๆใส่กัน พอดีพงอินทร์ขัดจังหวะขึ้น เขาหันไปถามน้ำหนึ่งว่า

“ตอนคุณเข้าไป คุณพบใครหรือมีอะไรผิดปกติหรือเปล่า”

“ไม่มีใครเลย...หนึ่งเข้าไปก็เจอคุณแผนยุทธนอนนิ่งไม่หายใจอยู่แล้ว”

“แปลกมาก อาการเขาไม่มีอะไรที่จะเกี่ยวข้องกับระบบหัวใจเลย” หมอวรวรรธตั้งข้อสังเกต

ณัฐเดชบอกพงอินทร์ว่า ตนบอกพรรคพวกให้จัดตำรวจมาเฝ้าแผนยุทธ 24 ชั่วโมงแล้ว กรรณาปรารภว่าคดีนี้ซับซ้อนเกินกว่าที่เราคิดเสียแล้ว น้ำหนึ่งยืนฟังทำหน้านิ่ง จนณัฐเดชเอ่ยขึ้นว่า

“ใช่...พี่ไปได้ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับคุณช่อเพชรและพิมพลอย”

ทุกคนหันมาสนใจทันที เมื่อพากันมานั่งที่ห้องรับแขกในโรงพยาบาล ณัฐเดชเล่าว่า

“พี่ไปโรงพยาบาลจิตเวชที่คุณพิมพลอยน้องสาวของคุณช่อเพชรเคยรักษาตัวอยู่ หมอบอกว่าคุณช่อเพชรมารับตัวน้องสาวไปอยู่ด้วยนานแล้ว” กรรณาถามว่าไปอยู่ที่ไหน? “น่าจะเป็นบ้านญาติที่รับตัวคุณช่อเพชรไปอยู่ด้วยตั้งแต่เด็ก พี่กำลังให้เพื่อนในกรมตำรวจช่วยตามหาบ้านหลังนี้อยู่”

“เดี๋ยวหนึ่งจะช่วยหาบ้านหลังนี้อีกแรงนึงค่ะ” น้ำหนึ่งอาสา ทุกคนหันมอง “ยังมีเอกสารเก่าๆของคุณช่อเพชรอยู่ที่บริษัท ระหว่างที่คุณแผนยุทธอยู่โรงพยาบาล หนึ่งจะแอบไปค้นให้ อาจจะโชคดีเจอก็ได้ค่ะ”

พงอินทร์ขอบใจน้ำหนึ่งที่ช่วยตนเยอะมาก น้ำหนึ่งยิ้มแย้มบอกว่าตนยินดีเต็มใจช่วย

“งั้นไม่มีอะไรแล้ว ผมกลับก่อนนะครับ มีอะไรโทร.ตามผมได้ตลอดเวลา ไปก่อนนะครับ สวัสดีครับพี่ณัฐ”

หมอวรวรรธหาทางหลบไปจากณัฐเดช แต่พอเดินไปไม่กี่ก้าวณัฐเดชก็ตามไปเอาแขนล็อกคอไว้ทำท่าเหมือนโอบไหล่ แล้วพูดเสียงลอดไรฟัน

“แกเอาน้องฉันไปซ่อนไว้ที่ไหน พาฉันไปหาเดี๋ยวนี้!”

ooooooo

ที่ชายหาดพัทยา เนตรสิตางศุ์เดินเล่นอยู่ จู่ๆก็เห็นเสี้ยวหน้าของวิญญาณยืนอยู่ เธอเพ่งมอง วิญญาณส่งสัญญาณให้เธอรีบกลับบ้าน เธอสังหรณ์ใจว่าจะมีเหตุร้าย จึงรีบวิ่งกลับบ้าน พอไปถึงไม่เห็นป้าสุดใจ เดินเข้าบ้านไปในครัวกำลังจะร้องเรียกก็ถูกป้าสุดใจรวบตัวเอามือปิดปาก

ป้าสุดใจบอกให้เงียบเพราะมีคนบุกรุกเข้ามาใน บ้าน เนตรสิตางศุ์ไม่ทันถามว่าใครก็ได้ยินเสียงคุ้นหูว่า “ไม่เจอได้ไงวะ” เธอเย็นวาบไปทั้งตัว เพราะจำได้ว่านั่นคือเสียงของกรกฎ ลูกน้องคนสนิทของหมอผีสมคิด!

ป้าสุดใจ ปลุกใจเนตรสิตางศุ์ด้วยวีรกรรมของวีรสตรีในอดีต พากันวิ่งหนีเข้าห้องปิดประตูลงกลอน เลื่อนตู้มาดันประตูไว้ ย้ำกับเนตรสิตางศุ์ว่าต้องมีสติ แล้วป้าก็ไปหยิบปืนลูกซองมาพร้อมสู้ พวกกรกฎถีบประตูโครมๆทำท่าจะพัง ป้าสุดใจบอกเนตรสิตางศุ์ให้กระโดดหน้าต่างหนี

ลูกน้องกรกฎพังประตูไม่ได้ กรกฎจึงท่องคาถาหมัดธนูแล้วใช้สองมือผลักประตูเต็มแรง ประตูเปิดออกอย่างง่ายดาย ปรากฏว่าไม่มีใครอยู่ในห้องแล้ว มันวิ่งไปชะโงกหน้าต่าง เห็นป้าสุดใจกับเนตรสิตางศุ์วิ่งอยู่ไกลๆมันคำราม

“อีแก่สารพัดพิษ!” แล้วโดดหน้าต่างไล่ตามไปทันที!

ooooooo

อ่านละคร สื่อรักสัมผัสหัวใจ 2 ตอนที่ 17 วันที่ 1 พ.ย. 56

บทประพันธ์โดย:ณารา/ร่มแก้ว/ซ่อนกลิ่น/เก้าแต้ม/แพรณัฐ จากบทละครโทรทัศน์ทางช่อง 3
บทโทรทัศน์ : ทิพย์ธิดา ศรัทธาทิพย์, สุธิสา วงษ์อยู่, เบญจมาศ ดาลหิรัญรัตน์, ศักดิ์ชาย เกียรติปัญญาโอภาส, โรจนินทร์ และ ณัชชานิษฐ์ จิรรุ่งโรจน์
สื่อรักสัมผัสหัวใจ 2กำกับการแสดง : ตระกูล อรุณสวัสดิ์
สื่อรักสัมผัสหัวใจ 2 ผลิต : ค่ายชลลัมพี โปรดั๊กชั่น จำกัด
สื่อรักสัมผัสหัวใจ 2 แนวละคร : คอเมดี้
สื่อรักสัมผัสหัวใจ 2 วันเวลาออกอากาศทุกวันศุกร์ -เสาร์ และอาทิตย์ เริ่มเวลา 20.15
ติดตามชมสื่อรักสัมผัสหัวใจ 2 ได้ทางไทยทีวีสีช่อง 3
ที่มา ไทยรัฐ

อ่านละคร สื่อรักสัมผัสหัวใจ 2 ตอนที่ 17 วันที่ 31 ต.ค. 56


พง อินทร์กับก๊องพยายามแหย่เธอหมายให้คลายเครียด แต่ทั้งสองกลับต้องเครียดเมื่อถูกกรรณาปฏิเสธและขออยู่คนเดียว พงอินทร์พยายามที่จะทำให้เธอหายเครียดด้วยการทำงานต่อ บอกว่าจะจ้างเธอทำงานโดยให้ค่าจ้างเพิ่มจากแผนยุทธเป็นสองเท่า...เธอเฉย พงอินทร์เสนอเป็นสามเท่า...ก็ถูกปฏิเสธ เธอเล่าเศร้าๆว่า

“ทุกเคสที่ผ่าน มา พวกเราทำงานกันเป็นทีม ถึงใครจะรับผิดชอบเคสไหนเป็นหลัก แต่ที่สุดพวกเราต้องช่วยกัน... ตอนนี้ทุกอย่างพังหมดแล้ว ซิกซ์เซ้นส์วงแตก พลังวิเศษที่ห้าไม่ได้กลับมารวมกัน แล้วนายคิดว่าลำพังฉันได้ยินเสียงวิญญาณแค่คนเดียวจะทำให้คดีนี้สำเร็จได้ งั้นเหรอ มันไม่มีทางอยู่แล้ว”

“ทำไมเธอถึงยอมแพ้ง่ายนักยัยแว่วเสียงผี”

“ก็เพราะพวกฉันแพ้แล้วจริงๆน่ะซิ...แล้วฉันก็ไม่อยากได้ยินเสียงวิญญาณอะไรอีกต่อไปแล้ว!!”


กรรณาเดินเข้าห้องนอนหยิบรูปถ่าย 5 สาวที่เคยอยู่ด้วยกันมาดู ร้องไห้อย่างทำใจไม่ได้จริงๆ

ooooooo

กรรัมภาที่จุนจีช่วยไว้และพาไปนอนพักที่ห้องพักในโรงแรมของตน พอเธอรู้สึกตัวขึ้นมาเห็นสภาพตัวเองที่ใส่เพียงเสื้อคลุมอาบน้ำและจุนจีก็ นอนตะแคงโอบเธออยู่ก็กรี๊ดสุดเสียง

จุนจีตกใจตื่นบอกให้เงียบหน่อยเดี๋ยว คนได้แตกตื่นกันทั้งโรงแรม กรรัมภาต่อยหน้าจุนจีจนเลือดกำเดาไหล ด่าเขาว่าฉวยโอกาส ถามว่าเสื้อผ้าตนอยู่ไหน? ถอดเสื้อผ้าตนยังไง? ถอดทำไม!?

จุนจีจึงเล่าว่าเธอถูกซองซูวางยา ตนตามมาช่วยไว้ทัน และที่ต้องเปลี่ยนเสื้อผ้าเพราะเธออ้วกใส่จนเปรอะไปทั้งสองคน กระนั้นกรรัมภาก็ยังโทษว่าเพราะเขานัดให้มาหา ทำให้เธอต้องมาที่นี่และถูกซองซูวางยา

เมื่อปรับความเข้าใจกันแล้ว บรรยากาศกำลังจะโรแมนติก ลีจองกุ๊กก็มาเคาะประตูเรียกอย่างร้อนรน พอจุนจีเปิดประตูให้ ลีจองกุ๊กก็เล่าอย่างตื่นเต้นว่า

“จุนจี!! ฉันดีใจจริงๆที่เห็นนายอยู่ที่นี่ เมื่อคืนฉันนอนไม่หลับทั้งคืนเลยกลัวนายจะมีปัญหาเพราะคุณแก้มอีก”

พอดีกรรัมภาเปิดประตูห้องน้ำออกมา ลีจองกุ๊กมองอึ้ง กรรัมภารีบบอกว่าอย่าเข้าใจผิดเราสองคนไม่ได้มีอะไรกัน

“ใช่ ฉันกับคุณแก้มไม่ได้ทำอะไรเสียหาย แต่ถ้าเมื่อคืนฉันตามมาช่วยไม่ทันละก็ ป่านนี้คุณแก้มคงป่นปี้เพราะฝีมือไอ้ซองซูไปแล้ว!!” จุนจีแจง

ลีจองกุ๊กไม่พูดพร่ำทำเพลง ตรงไปคว้ามือกรรัมภาจูงไปที่ประตูบอกว่าเธอต้องออกไปจากที่นี่เดี๋ยวนี้ กร–รัมภาถามว่าจะให้ตนออกไปในสภาพนี้หรือ ส่วนจุนจีไม่พอใจเสียงเข้มใส่ลีจองกุ๊กทันที...

“นี่นายจะเกินไปแล้วนะจองกุ๊ก ฉันยังไม่ได้คิดบัญชีเรื่องที่นายทำให้คุณแก้มเกือบเสียท่าไอ้ซองซูเมื่อคืนเลยนะ”

ลีจองกุ๊กพูดเสียงเข้มไม่แพ้กันว่า ตนจะไม่ยอมให้กรรัมภาอยู่ในห้องเขาต่อไปแม้วินาทีเดียว เพราะถ้ามีคนมารู้เห็นว่าเธอนอนค้างกับเขาจะมีแต่เรื่องเดือดร้อน พลั้งปากไปว่า

“ผู้หญิงคนนี้มีแต่จะทำให้นายเดือดร้อน!!”

กรรัมภาอึ้ง เสียใจและรู้สึกผิด เดินย้อนกลับไปรวบเสื้อผ้าของตัวเองที่จุนจีผึ่งไว้แล้วเปิดประตูออกจากห้อง

จุนจีตามมาขอร้องอย่าฟังลีจองกุ๊กได้ไหม เธอตอบอย่างเย็นชาว่าอย่าห่วงเลยตนไปเปิดห้องชั้นอื่นเปลี่ยนชุดได้

จุนจีดึงเธอเข้าไปกอดอย่างสะเทือนใจ กรรัมภากอดตอบก่อนผละออกเดินจากไป ลีจองกุ๊กบอกว่าตนจะตามไปดูแลเธอให้

หลังประตูที่เปิดแง้มอยู่นั้น ซองซูแอบอยู่ เขาเอามือถือถ่ายคลิปทั้งหมดไว้ ยิ้มร้ายพึมพำ

“หึๆๆ ทำตัวเป็นสุภาพบุรุษ แต่จริงๆ ก็ลากไปกินเองทั้งคืน! คราวนี้แหละไอ้จุนจี หนักแน่!!”

ooooooo

ญาณิน ติณห์ และป้าออ อยู่ด้วยกันที่บริษัทซิกซ์เซ้นส์ วันนี้พงอินทร์มาหาแต่เช้า ติณห์ออกไปเปิดประตูรับ

พงอินทร์ถามหาญาณินบอกว่าตนมีเรื่องจะปรึกษาเธอ ติณห์ซักถามอย่างไม่ไว้ใจว่าเรื่องอะไร

“เรื่องกรรณาครับ กรรณาเป็นโรคซึมเศร้า ไม่เป็นกรรณาคนก่อนที่มีชีวิตชีวาร่าเริง ผมเลยอยากปรึกษาคุณญาณินเผื่อจะมีวิธีทำให้ยัยกรรณดีขึ้น”

“แล้วนายคิดว่าดาร์ลิ้งของผมรู้สึกดีนักเหรอ คุณณินเองก็แย่ กินไม่ได้นอนไม่หลับเหมือนกัน”

พงอินทร์อึ้ง ติณห์พูดจริงจังว่า

“ในฐานะที่เป็นแฟนของคุณณินและรู้จักกับห้าสาวซิกซ์เซ้นส์มานานก่อนคุณ ผมจะไม่ยอมให้คุณณินต้องไม่สบายใจเรื่องคุณกรรณอีก สาวๆทุกคนเขารักกันมาก ถ้ารู้ว่าคุณกรรณเป็นโรคซึมเศร้า ญาณินของผมจะต้องรู้สึกแย่อีกแน่ๆ คุณรู้ไหมว่ากว่าผมจะทำให้คุณณินยิ้มได้น่ะ มันยากขนาดไหน”

พงอินทร์ถามว่าเขาทำอย่างไรญาณินถึงได้ดีขึ้น?

แม้จะไม่ชอบหน้าพงอินทร์แต่ติณห์ก็บอกว่า ตนใช้วิธีกอด เล่าว่า “เวลาที่คุณณินกับเพื่อนๆท้อแท้ หรือต้องการกำลังใจ พวกเธอก็จะกอดกันแน่นๆนานๆ แล้วทุกคนก็จะกลับมายิ้มได้ ตอนนี้ฉันก็ใช้วิธีนี้กับคุณณิน กอดคุณณินแน่นๆ นานๆ คุณณินก็ค่อยๆ รู้สึกดีขึ้น”

ได้รับคำแนะนำจากติณห์แล้ว พงอินทร์กลับไปอย่างไม่แน่ใจนัก เมื่อติณห์กลับเข้าไปในบ้าน ญาณินถามเขาว่าใครมา พอรู้ว่าพงอินทร์มาเธอถามว่ามาทำไม หรือมีเรื่องอะไรเกี่ยวกับกรรณา ติณห์บอกว่าไม่มีอะไร พงอินทร์มาถามวิธีให้กำลังใจกรรณา และตนก็แนะนำไปแล้ว ญาณินถามว่าแนะนำว่ายังไง?

“ผมก็บอกให้เขา...” พูดแล้วกอดญาณินไว้แน่น “ทำแบบนี้ไง”

กอดกันไม่ทันคลาย เสียงออดก็ดังขึ้นอีก ติณห์คิดว่าพงอินทร์คงมีข้อสงสัยอะไร แต่พอมองออกไป เขาชะงักหน้าเครียดทันที ญาณินถามว่าใครมาหรือ ติณห์บอกเสียงแผ่ว...

“เบญจา...”

ooooooo

เบญจามาเพื่อเคลียร์เรื่องระหว่างตนกับติณห์ เธอบอกติณห์กับญาณินและป้าออที่ตามออกมาให้สบายใจว่า

“เราจะคุยกันแบบคนธรรมดาที่มีแค่หัวใจ ไม่มีคาถาอาคมใดๆเข้ามาเกี่ยวข้อง และถ้าไม่มีใครทำร้ายหนู หนูก็จะไม่ทำร้ายใคร...”

ระหว่างนั้น ที่สำนักใหม่ของสมคิด กำลังมีการตบแต่งให้ดูขรึมขลัง มีอ่างน้ำมนต์ขนาดใหญ่ ที่สำคัญคือมีอีกาตัวมหึมาตั้งตระหง่านอยู่กลางโถง กรกฎที่ดูแลงานตบแต่งอยู่ บอกสมคิดว่า “ตามสเปกแล้วครับท่าน”

“ฉันจะกลับมายิ่งใหญ่กว่าเดิมให้ได้” สมคิดมองรูปสลักอีกาตัวมหึมา ยิ้มพอใจ สมคิดถามว่าแล้วเบญจาไปไหนไม่เห็นตั้งแต่เช้า กรกฎบอกว่าเธอกำลังฝึกจิตอยู่ ถูกสมคิดถามว่าโกหกตนทำไม กรกฎรีบขอโทษบอกว่าตนไม่ได้ตั้งใจ

“เอาเถอะ...ในเมื่อเบญจารนหาที่ อยากเป็นแมลงเม่าบินเข้ากองไฟก็ลองดู โดนไฟคลอกสักที นางจะได้ตาสว่าง!”

สมคิดพูดด้วยแววตาเหี้ยมเกรียม!

ooooooo

เบญจาไม่พอใจที่ติณห์ให้ญาณินมาร่วมคุยด้วย ยิ่งเมื่อติณห์บอกว่าตนกับญาณินไม่เคยมีอะไรปิดบังกันและกุมมือญาณินไว้ไม่ ปล่อย ก็ทำให้เบญจาทั้งไม่พอใจกระทั่งเจ็บใจ

เธอถามติณห์ว่าเรายังรักกันอยู่หรือเปล่า รำพันว่าติณห์คือรักแรกและเป็นรักเดียวของตน ติณห์ตอบอย่างชัดเจนว่า เธอเป็นคนวางแผนสร้างเรื่องทุกอย่างขึ้นมา นับแต่แกล้งถูกรถญาณินชนจนความจำเสื่อม พวกตนรักและเอ็นดูเธออย่างน้องสาวคนหนึ่ง แต่ความรู้สึกดีๆ

หมดไปแล้ว เวลานี้เธอเป็นไม่ได้แม้กระทั่งคนรู้จักกัน!

ส่วนที่ติณห์ปฏิบัติต่อเธอขณะอยู่รีสอร์ตนั้นเขาบอกว่า ทุกอย่างเป็นแผนการ เมื่อเธอกับสมคิดวางแผนมาทำลายตน ตนก็ต้องเปิดโปงตัวตนของเธอ ติณห์ว่าเธอพยายามใช้มนต์ดำทำเสน่ห์ตน แต่บอกให้รู้ว่าตนไม่เคยโดนมนต์เสน่ห์พ่องั่งแม่งั่งของเธอ ทุกอย่างที่ปฏิบัติต่อเธอนั้นแกล้งทำทั้งสิ้น ทำเพื่อให้เธอตายใจ!

เบญจาอ้างว่าตนรักเขา ติณห์โต้ว่ามันไม่ใช่ความรักแต่ทุกอย่างที่เธอทำกับญาณินเป็นความคิดอยากเอาชนะเท่านั้น

เมื่อใช้ทั้งเล่ห์ กล มนตร์คาถาและมารยา ก็ไม่อาจเอาชนะใจติณห์ได้ เบญจาเปลี่ยนเป็นแค้นใจและต้องการกำจัดทันที ทิ้งไพ่ตายกับติณห์ว่า

“เลือกเอาค่ะพี่ติณห์ ถ้าพี่เลือกหนู หนูสัญญาว่าหนูจะไม่ยุ่งเกี่ยวกับห้าสาวซิกซ์เซ้นส์อีก แต่ถ้าไม่ ทั้งพี่และมันรวมถึงทุกคนที่เกี่ยวข้องกับมันจะต้องพินาศ!!”

ติณห์โอบญาณินไว้อย่างปกป้อง บอกเบญจาด้วยท่าทีแข็งกร้าว เด็ดขาดว่า

“ฟังให้ดีนะเบญจา เธอหมดแล้วล่ะ ลงต้องใช้ความกลัวมาขู่ให้คนรัก เธอก็ไม่เหลืออะไรทั้งนั้น แม้แต่ความนับถือตัวเองหรือความชื่นชมในตัวเอง แล้วขอบอกเลยนะ เธอกะไอ้สมคิด ไม่ได้เจ๋งที่สุดในโลกนี้ ความชั่วไม่มีวันชนะความดี ธรรมะย่อมชนะอธรรม นี่คือสัจธรรม ถ้าไม่อยากแพ้ก็กลับตัวกลับใจเป็นคนดีซะ”

เบญจากำหมัดแน่นข่มความเจ็บปวดไม่ให้ปะทุ พยายามกลืนน้ำตาไม่ให้ไหลออกมา หันหลังพกความแค้นที่สุมอกออกไป

กลับไปถึงสำนักใหม่ของหมอผีสมคิด เธอบอกสมคิดว่า

“ตั้งแต่นี้ต่อไป หนูเบื่อจะฟังคำสั่งของพ่อทุกอย่าง จะไม่ปรานีใคร ไม่เชื่อใจใครและไม่มีวันจะรักใครอีกต่อไป!!”

“ต้องอย่างนี้สิถึงคู่ควรที่จะเป็นลูกสาวคนเดียวของพ่อ” สมคิดยิ้มสมใจ

ooooooo

หลังจากนั้น ทั้งญาณินที่บริษัทซิกซ์เซ้นส์ทั้งเนตรสิตางศุ์ที่พัทยา กรรณาที่บ้านพงอินทร์ และสุคนธรสที่บ้านไตรรัตน์ ทุกคนก็ได้ยินเสียงฟ้าผ่าและมีฝูงอีกาบินว่อนอย่างคุกคาม!

ซ้ำร้ายกว่านั้น สุคนธรสยังถูกไตรรัตน์งอนหาว่าเธอไม่เคยรักเขาเลย ทั้งที่ตัวเขาและทุกคนในครอบครัวรักและปรารถนาดีกับเธออย่างมาก ใจเธอมีแต่เพื่อนๆในกลุ่ม ถามว่าเธอเคยรักตนบ้างไหม เราแต่งงานกันมานานแต่เคยเป็นสามีภรรยากันจริงๆ บ้างไหม ไตรรัตน์ตะบึงตะบอนออกจากบ้าน บอกอาม่า อาอี๊ เจ๊หญิงและเสี่ยจำเริญว่าฝากดูแลสุคนธรสด้วย ตนจะไม่อยู่บ้านสักพัก

“เฮ้อ...ชีช้ำจริงๆ มีแต่เรื่อง” อาม่าบ่น พอไตรรัตน์ออกจากบ้านไปอาม่าตกใจ “โอ๊ย...อั๊วจะเป็นลมมันอะไรกันนักหนา เก๊กซิมจริงๆ”

สุคนธรสร้องไห้โฮวิ่งตามไตรรัตน์ไป กำลังจะเข้าใจกันได้ เคธี่ก็เข้ามาแทรก เธอเอ่ยปากกับสุคนธรส ขอยืมไตรรัตน์ไปเป็นสามีสักพักไม่อย่างนั้นจะถูกพ่อเลี้ยงกำจรส่งสมุนมาฉุด ไปปล้ำขืนใจ ไตรรัตน์ถามว่าทำไมจู่ๆ เขาจะมาอุ้มเธอ?

“เคธี่...รับของเขามานิดหน่อยน่ะค่ะ แต่เขามาให้เคธี่เอง เคธี่ไม่ได้ขอสักหน่อย แต่พอเคธี่รับมาเขาก็มาอุ๊บอ๊ิบว่าเคธี่ยอมเขาแล้ว ที่จริงเคธี่ไม่ได้ยอม แต่เอาของเขามาเฉยๆ” ไตรรัตน์ถามว่าเอาอะไรมา “เงินค่ะ... นิดหน่อย...สองล้าน”

ไตรรัตน์ตกใจ เคธี่ชี้แจงว่าตนเอาเงินมาให้แม่ใช้หนี้ด้วยความกตัญญูแต่ตอนนี้ตนต้องรับ กรรม อยู่เมืองไทยตนไม่รู้จักใครมีแต่เขาคนเดียวที่จะมารับบทเป็นสามีตนได้อย่าง ไม่ขัดเขินแล้วรวบรัดว่า “ตกลงนะคะ”

“สบายมาก” ไตรรัตน์ตอบเสียงดังตั้งใจให้สุคนธรสได้ยิน ทั้งยังบอกเคธี่ว่า “ผมจะโชว์สดๆว่าเรารักกันแค่ไหน ที่ไหน เมื่อไหร่ ไปกันเลย” พูดแล้วแอบเหล่ว่าสุคนธรสฟังอยู่หรือเปล่า

สุคนธรสได้แต่ยืนซีดอยู่หลังต้นไม้...

ooooooo

ที่มุมกาแฟในบริษัทของแผนยุทธ กาแฟแก้วหนึ่งชงเสร็จวางอยู่ มือที่วางถ้วยกาแฟล้วงกระเป๋ากางเกง หยิบยาใส่แก้วกาแฟคนให้ละลายอย่างใจเย็น

ผีช่อเพชรยังติดตามแผนยุทธตลอดเวลาจนเขาหวาดกลัวไม่มีสมาธิในการทำงาน น้ำหนึ่งถือถ้วยกาแฟเข้ามาให้ และบีบนวดให้เขาคลายเครียด ผีช่อเพชรอาละวาดด้วยความหึงหวงแต่ไม่มีใครรู้ เพราะไม่ว่าเธอจะตะโกนและปัดตบตีอะไรก็วืดไปหมด

น้ำหนึ่งให้แผนยุทธดื่มกาแฟ เขาดื่มจนเกือบหมดหลับตาเคลิ้มพิงเก้าอี้อย่างมีความสุข ครู่หนึ่งเขาลืมตาจะจูบน้ำหนึ่งแต่แล้วก็ผงะเมื่อเห็นหน้าน้ำหนึ่งเป็นพิมอร แผนยุทธโวยวายลั่น

“พิมอร!!! อย่านะ...อย่าเข้ามา!!!” แต่พอขยี้ตามองอีกทีกลายเป็นน้ำหนึ่งยืนอยู่ บอกน้ำหนึ่งที่แสดงความเป็นห่วงว่า “ผมไม่เป็นไร แค่รู้สึกเพลียๆ ผมว่าวันนี้ผมกลับไปพักที่บ้านก่อนดีกว่า ถ้ามีอะไรด่วนโทร.หาผมแล้วกันนะหนึ่ง”

แผนยุทธรีบเก็บของแล้วออกไป น้ำหนึ่งที่ทำเป็นตระหนกเมื่อครู่มองตามเขาไปอย่างสะใจ

ฝ่ายพงอินทร์ หลังจากไปขอบทเรียนจากติณห์ที่ทำให้ญาณินหายเครียดได้กลับมาก็กอดกรรณาที่ ยังซึมเศร้าอยู่ เธอยิ้มออกมาทั้งน้ำตาอย่างมีกำลังใจ แต่แล้วก็ถูกแม่บ้านจารุณีกางร่มฝ่าสายฝนเข้ามาบอกพงอินทร์อย่างตระหนกให้ รีบไปช่วยแผนยุทธ พงอินทร์บอกกรรณาให้อยู่ที่นี่อย่าไปไหน แล้วรีบออกไป

พงอินทร์ว่าไปถึงบ้านเวียงทับ เห็นมูมู่กำลังถูกแผนยุทธขับไล่หาว่าเป็นผี จารุณีเล่าว่า

“คุณแผนยุทธเดินเข้ามาในบ้าน แล้วจู่ๆคุณผู้ชายก็อาละวาดร้องโวยวาย หาว่าดิฉันเป็นผีคุณผู้หญิง” ถามพงอินทร์ว่าเอาอย่างไรดี พงอินทร์ค่อยๆ ก้าวเข้าหาแผนยุทธถามว่า

“แกเป็นอะไร เลิกลีลาได้แล้ว คิดว่าแกล้งบ้าแล้วจะหนีความผิดคดีฆาตกรรมพี่พิมพ้นเหรอ”

พอแผนยุทธได้ยินชื่อพิมอรก็คลั่งขึ้นมาอีก เห็นทุกคนเป็นผีพิมอรหมด ปัดป้องตัวเองตะโกนไม่ขาดปาก “ฉันไม่ได้ฆ่าเธอ...ฉันไม่ได้ฆ่าเธอ!!”

แผนยุทธถามว่าเขาไม่ได้ฆ่าแล้วใครฆ่า ช่อเพชรใช่ไหม เขาบงการให้ช่อเพชรฆ่าใช่ไหม ผีช่อเพชรปฏิเสธลั่นว่าตนไม่ได้ทำ แผนยุทธสะบัดหลุดจากพงอินทร์จะวิ่งออกไป มูมู่ขวางไว้ แผนยุทธเห็นเป็นพิมอรหันวิ่งไปอีกทาง

ไม่ว่าแผนยุทธวิ่งไปทางไหนเจอใครก็เห็นเป็นผีพิมอร พงอินทร์ฉวยจังหวะที่แผนยุทธกำลังยกมือปัดป้องผี เข้าล็อกตัวจากด้านหลัง ถูกแผนยุทธที่กำลังสติแตกสลัดสุดแรง วิ่งลงบันได แต่เพราะใส่ถุงเท้าอยู่ทำให้ลื่นพลัดตกบันไดหมดสติ

ooooooo

แผนยุทธถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล หมอวรวรรธคุยกับหมอเจ้าของไข้ พงอินทร์ กรรณาและก๊องนั่งรออยู่ที่เก้าอี้หน้าห้อง หมอวรวรรธเดินกลับมาบอกทุกคนว่า

“คุณแผนยุทธปลอดภัยแล้วนะครับ แต่สมองได้รับความกระทบกระเทือน รวมถึงเส้นประสาทบางส่วนด้านซีกขวา ดังนั้น แขนและขาอาจจะขยับลำบากหน่อย โชคดีที่ตกลงมาไม่สูงนัก ไม่งั้นอาจจะอันตรายกว่านี้”

หมอวรวรรธบอกพงอินทร์ที่ซักถามว่า

อ่านละคร สื่อรักสัมผัสหัวใจ 2 ตอนที่ 17 วันที่ 31 ต.ค. 56

บทประพันธ์โดย:ณารา/ร่มแก้ว/ซ่อนกลิ่น/เก้าแต้ม/แพรณัฐ จากบทละครโทรทัศน์ทางช่อง 3
บทโทรทัศน์ : ทิพย์ธิดา ศรัทธาทิพย์, สุธิสา วงษ์อยู่, เบญจมาศ ดาลหิรัญรัตน์, ศักดิ์ชาย เกียรติปัญญาโอภาส, โรจนินทร์ และ ณัชชานิษฐ์ จิรรุ่งโรจน์
สื่อรักสัมผัสหัวใจ 2กำกับการแสดง : ตระกูล อรุณสวัสดิ์
สื่อรักสัมผัสหัวใจ 2 ผลิต : ค่ายชลลัมพี โปรดั๊กชั่น จำกัด
สื่อรักสัมผัสหัวใจ 2 แนวละคร : คอเมดี้
สื่อรักสัมผัสหัวใจ 2 วันเวลาออกอากาศทุกวันศุกร์ -เสาร์ และอาทิตย์ เริ่มเวลา 20.15
ติดตามชมสื่อรักสัมผัสหัวใจ 2 ได้ทางไทยทีวีสีช่อง 3
ที่มา ไทยรัฐ

อ่านละคร สื่อรักสัมผัสหัวใจ 2 ตอนที่ 17 วันที่ 30 ต.ค. 56


“ตอนนี้เราก็รู้แล้ว ต่อไปก็ไม่ต้องทำอาหารแล้ว หาอย่างอื่นทำแทนแล้วกัน”

หมอไม่เห็นด้วย แต่ณัฐเดชยืนยันว่า “อย่าเสียเวลาเลย อย่างที่พีชพูดก็ถูก เนตรควรยอมรับและเข้าใจโลกความจริงบ้าง จะเอาแต่ใจแบบเด็กๆไม่ได้แล้ว” หมอติงว่าทำไมพูดอย่างนี้ ณัฐเดชย้อนถามว่า “ก็พูดความจริง อยากให้พูดไม่ใช่เหรอ”

“ความจริงบางอย่างเราไม่ต้องพูดออกมาทั้งหมดก็ได้ เหมือนที่ผมไม่พูดเรื่องพีช...” หมอยั้งปาก ณัฐเดชถามว่าเรื่องอะไรหมอไม่พูดต่อ

“หมอ...ไปเถอะ...เนตรไม่อยากอยู่ที่นี่แล้ว” เนตร–สิตางศุ์คว้ามือหมอลากออกไป

แต่พอออกมาเจอสุพิชชาเธอถามว่าจะไปไหนกัน หมอปรามว่าอย่ามายุ่งกับตนอีกไม่อย่างนั้นตนจะไม่เสแสร้งทำดีกับเธออีกต่อไป ทำให้ณัฐเดชยิ่งอยากรู้ แต่หมอก็ยังไม่พูด โบ้ยว่าสุพิชชาเป็นคนชอบพูดความจริงก็ให้เธอพูดเองแล้วกัน


สุพิชชาทำหน้าซื่อตาใสตัดพ้อหมอว่าอย่าใส่ร้ายตน ณัฐเดชจึงหันมาคาดคั้นเอากับหมอวรวรรธ เนตร– สิตางศุ์ปกป้องหมอ ขวางณัฐเดชไม่ให้ทำอะไร หมอบอกว่าตนตาสว่างแล้วเหลือแต่พี่ณัฐยังตาบอดอยู่เชิญบอดต่อไปเถิด แล้วซ้อนท้ายมอเตอร์ไซค์หมอพากันออกไปเลย

ณัฐเดชหัวเสียหันมองสุพิชชา เธอทำหน้าอ้อนอ่อนแอจนณัฐเดชใจอ่อน

ooooooo

จุนจีเป็นห่วงกรรัมภา แต่เพราะติดถ่ายละครจึงฝากข้อความนัดพบเธอ ระหว่างถ่ายละครจุนจีฝากมือถือไว้กับลีจองกุ๊ก เมื่อกรรัมภาที่อยู่ในสภาพว้าวุ่นสับสนมาถึงกองถ่าย จึงฝากข้อความถึงจุนจีว่า มาถึงแล้วจะให้ไปพบที่ไหน

ลีจองกุ๊กเห็นข้อความนี้จึงกดปิดและเอามือถือใส่กระเป๋าเสื้อไว้ จุนจีถามว่าแก้มโทร.มาหรือยัง ลีจองกุ๊กปดว่ามือถือแบตหมดกำลังชาร์จอยู่ในห้องแต่งตัว

ผู้กำกับบอกว่าบทของซองซูหมดแล้วให้กลับไปพักได้เลย ซองซูลงไปเจอกรรัมภานั่งรอจุนจีอยู่ที่ล็อบบี้โรงแรมที่ถ่ายละครกำลังถูกนัก ข่าวรุมสัมภาษณ์เรื่องข่าวครึกโครมเกี่ยวกับพวกเธอเวลานี้ ซองซูฉวยโอกาสนี้พลิกวิกฤติของเธอให้เป็นโอกาสของตนทันที

ซองซูฝ่าวงนักข่าวเข้าไปยืนเคียงข้างกรรัมภาประกาศเสียงดัง

“ขอโทษพี่ๆทุกคนนะครับ พอดีคุณแก้มเธอนัดมาคุยงานกับผม ไม่ใช่นัดจุนจีครับ เราต้องขอตัวก่อน ขอโทษจริงๆนะครับ” แล้วก้มบอกกรรัมภา “ไปกันเถอะครับคุณแก้ม” แล้วจูงกรรัมภาไปท่ามกลางความงุนงงของนักข่าว

ส่วนญาณินอยู่ที่บริษัทซิกซ์เซ้นส์กับติณห์ ยังทำใจไม่ได้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น คิดไม่ตกว่าทำไมความดีถึงแพ้ ธรรมะต้องสยบต่อมารร้าย ติณห์กอดเธอจากข้างหลังปลอบอย่างเห็นใจ...เข้าใจว่า

“แต่ยังไงเราก็จะยึดมั่นศรัทธาในตัวเราเอง ศรัทธาในความดี เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมันคงเป็นอุปสรรคที่จะทำให้เราแข็งแรงขึ้น มั่นคงขึ้น”

จิตของเบญจาเห็นความรักความห่วงใยที่ติณห์มีต่อญาณินก็ถึงกับน้ำตาคลอ พึมพำอย่างเจ็บใจ

“พี่ติณห์...ทำไม...เบญจาสู้อีญาณินไม่ได้ตรงไหน!” แต่พอจิตเบญจาจะพุ่งเข้าเล่นงานทั้งสอง จิตก็ชะงักแล้วหายวับไป กายหยาบของเบญจาที่นั่งสมาธิอยู่ในคฤหาสน์ร้างลืมตาโพลงทันที

ooooooo

คฤหาสน์ร้างที่สมคิดมาสร้างสำนักใหม่ อดีตเป็นป่าช้าร้างเป็นที่ฝังศพคนที่ถูกพวกมือปืนฆ่าตายอย่างโหดเหี้ยมสยด สยอง จึงมีวิญญาณร้องโหยหวนไปทั่ว เวลานั้น สมคิดบอกเบญจาว่า

“ที่นี่มีแต่ความโหดเหี้ยม มีแต่อาถรรพณ์ของวิญญาณตายโหง มันถึงเหมาะที่จะเป็นอาณาจักรของเรา”

เมื่อจิตเบญจาเข้าร่าง สมคิดถามอย่างไม่พอใจว่าถอดจิตไปไหนมา เบญจาไม่กล้าบอก ถูกสมคิดสั่งห้ามคิดถึงติณห์อีกเด็ดขาด พูดกรอกหูว่า

“สิ่งที่แกต้องคิดมีเพียงเรื่องเดียวคือสร้างฐานอำนาจและทำให้ฉันกลับมายิ่งใหญ่อีกครั้ง!!”

เบญจาบอกว่าตนไม่อยากทำแล้ว เวลานี้บริษัทซิกซ์เซ้นส์ถูกปิดและพวกผู้หญิงทั้งห้าคนก็แยกย้ายกันไปคนละ ทาง พลังพิเศษทั้งห้าไม่ถูกรวมกันอีกแล้ว เมื่อตนทำหน้าที่ตรงนี้สำเร็จหน้าที่ตนก็ควรจบลงได้แล้ว ถูกสมคิดบีบปากอย่างแรงตะคอกใส่หน้า

“ฉันคือผู้ให้ชีวิตแก เพราะฉะนั้นแกมีหน้าที่ต้องรับใช้ฉันไปตลอดชีวิต!! จำไว้!!! แกไม่มีสิทธิ์คิดกบฏกับฉัน!!”

เบญจาเจ็บปวดจนทนไม่ได้สะบัดหลุดวิ่งออกไป กรกฎถามสมคิดอย่างรู้กันว่า “ท่านจะรอไปถึงเมื่อไหร่ครับ”

“อีกไม่นานหรอกกรกฎ ฉันจะให้มันทุกข์เพราะความรักให้ถึงที่สุด เมื่อนั้น มันจะลืมความเป็นคนที่มีความ อ่อนแอ แล้วด้านมืดในตัวมันจะทรงพลังจนไม่มีใครหรืออะไรทำอะไรมันได้ ฮ่าๆๆ”

ooooooo

ซองซูพากรรัมภาไปที่ร้านอาหาร มอมยาเธอแล้วพาขึ้นห้องพักของตัวเองในโรงแรม

จุนจีถ่ายละครเสร็จออกมาเห็นรถกรรัมภาจอดอยู่ เขาสังหรณ์ใจว่าอาจเกิดเหตุไม่ดีกับเธอ จุนจีรีบโทร.เข้ามือถือ กรรัมภารับสายในสภาพเบลอๆง่วงนอน ซ้ำมีเสียงของซองซูแทรกเข้าไปในโทรศัพท์ทักทาย “ฮัลโหล... จุนจี” ซองซูยังพูดเย้ยว่ากรรัมภาอยู่กับตนไม่ต้องห่วง

พอจุนจีรู้ว่ากรรัมภาอยู่กับซองซู เขาคว้ากุญแจรถตู้ตะบึงออกไปทันที จุนจีไปช่วยกรรัมภาพ้นจากความกักขฬะของซองซูได้ทัน ต่อยซองซูจนเลือดกบปากเปิดฝักบัวรดล้างเลือดพูดอย่างสะใจว่า

“ทีนี้ตาสว่างเสียทีนะ ไอ้ซองซู...จำเอาไว้ คุณแก้มคือคนรักของฉัน แกห้ามยุ่ง!”

จุนจีอุ้มกรรัมภาไปที่ห้องพักของตนซึ่งอยู่โรงแรมเดียวกับซองซู เขาไม่ได้กลิ่นเหล้าจึงคาดเดาได้ว่าเธอถูกซองซูวางยานอนหลับ พยายามเรียกให้เธอรู้สึกตัว พอกรรัมภารู้สึกตัวก็คลื่นไส้อาเจียนออกมาเป็นสีขาวพุ่งใส่จุนจีจนเลอะไป ด้วยกันทั้งสองคน อ้วกเสร็จก็ล้มตัวลงนอนต่ออย่างไม่รับรู้อะไรทั้งสิ้น...

ooooooo

หลังจากสุพิชชาทำให้เนตรสิตางศุ์กับหมอวรวรรธออกจากบ้านไปแล้ว เธอก็ยั่วยวนณัฐเดชทุ่มสุดตัว บอกว่าจะช่วยผ่อนคลายให้เขา

ณัฐเดชกลัวเนตรสิตางศุ์กลับมาเจอ สุพิชชาบอกว่าเนตรสิตางศุ์ยังไม่กลับแต่ถ้ากลับมาเมื่อไรตนก็จะไปทันที

หารู้ไม่ หมอวรวรรธพาเนตรสิตางศุ์มาส่งที่บ้านแล้วพอเนตรสิตางศุ์เข้าบ้านก็พบภาพวาบ หวามของสุพิชชากับณัฐเดชบนโซฟา เธอโกรธมาก ต่อว่าพี่ชายว่าบ้านหลังนี้มีตนอยู่ด้วย หรือลืมไปแล้วว่าตนเป็นน้องสาว

หมอวรวรรธได้ยินเสียงทนไม่ได้เข้ามาช่วยเนตร– สิตางศุ์ ถูกณัฐเดชตะคอกใส่ว่านี่เป็นเรื่องระหว่างตนกับน้อง คนอื่นไม่เกี่ยว ผลักหมอล้มลงแล้วไล่ตะเพิดให้ออกจากบ้านตนไปเดี๋ยวนี้

เนตรสิตางศุ์ตัดสินใจไปกับหมอวรวรรธ บอกณัฐ–เดชว่าอย่าห้ามตน ยังไงตนก็ไม่มีวันอยู่กับคนที่ตาบอดใจบอดต่อไป เชิญสองคนคลายเครียดกันตามสบายตนจะไม่กลับมาเป็นก้างขวางคออีก

เมื่อเนตรสิตางศุ์กับหมอวรวรรธไปแล้ว สุพิชชาออดอ้อนมารยากับณัฐเดชหาว่าหมอใส่ร้ายตน ณัฐเดชเต็มไปด้วยความสับสน เขากอดสุพิชชาไว้ด้วยความรัก ยังความสะใจแก่สุพิชชายิ่งนัก!

ooooooo

อ่านละคร สื่อรักสัมผัสหัวใจ 2 ตอนที่ 17

รุ่งขึ้น ที่ชายทะเลพัทยา...เนตรสิตางศุ์ไปยืนร้องไห้อยู่คนเดียว หมอวรวรรธตามมาเจอ เข้าไปปลอบ...

“หยุดร้องได้แล้วครับคุณเนตร ร้องไห้ทั้งคืนแบบนี้ ต่อมน้ำตาอักเสบกันหมดพอดี”

หมอ ยิ่งปลอบเธอก็ยิ่งร้องไห้ เสียใจที่ณัฐเดชเปลี่ยนไปมากนับแต่หวนกลับไปคบกับสุพิชชาอีกครั้ง เธอร้องไห้จนหมอเข้าไปกอดบอกว่า ให้เวลากับณัฐเดชสักพัก เชื่อว่าทุกอย่างจะดีขึ้น

“มายืนกอดกันกลมตั้งแต่ตะวันเพิ่งขึ้นแบบนี้ ไม่อายผีสางเทวดาบ้างรึไง!” ป้าสุดใจดุเสียงดังจนทั้งสองเด้งออกจากกันโดยอัตโนมัติ ป้าสุดใจถือไม้เรียวประจำตัวมองทั้งสองเหมือนครูมองนักเรียนที่ทำผิด ทั้งสองมองหน้ากันเลิกลั่ก

เนตรสิตางศุ์ถูกป้าสุดใจจับไปนั่งท่องกลอนสอนหญิง จนหมอต้องออกรับแทนว่า

“คุณเนตรกำลังเสียใจ หนูเลยอยากให้กำลังใจ อีกอย่างหนูกับเนตรเราก็เป็นแฟนกัน”

“เป็นแฟนแล้วยังไง? เด็กสมัยนี้ชอบเอาคำว่าแฟนมาเป็นข้ออ้างในการทำสิ่งที่ไม่เหมาะสม...ชิงสุก ก่อนห่าม!”

จับมาอบรมเสร็จ ป้าสุดใจถามเนตรสิตางศุ์ว่าจะมาพักอยู่กับตนนานเท่าไหร่ เนตรสิตางศุ์ยังตอบไม่ออก ป้าตัดบทว่า

“เอา ล่ะๆจะอยู่ที่นี่นานแค่ไหน ฉันก็ไม่ได้ว่าอะไรหรอก ตามสบายเถอะ แค่อยากจะบอกให้ฟังว่า อย่ามัวแต่ฟังเหตุผลของตัวเอง จนลืมเปิดหูฟังเหตุผลของคนอื่นด้วยล่ะ”

เนตรสิตางศุ์รับคำ ยกมือไหว้ขอบคุณ พอป้าสุดใจหันหลังจะเดินเข้าบ้าน หมอก็รีบเข้าไปจับมือให้กำลังใจเธอ ปรากฎว่าป้าหันกลับมาอีก!

“แหนะ!เผลอเป็นไม่ได้ เดี๋ยวพาหนูเนตรเข้าไปทานอาหารเช้าด้วยล่ะ”

“ครับป้า” หมอรับคำเสียงอ่อยๆ มองตามป้าไปไม่กล้าขยับอีกเลย

ooooooo

ไตรรัตน์พาสุคนธรสที่ยังเสียใจเศร้าหมองกับเรื่องราวที่เกิดขึ้นจนต้องปิดบริษัทชั่วคราว กลับไปอยู่ที่บ้านตน

ขณะ นั่งทานอาหารเช้าด้วยกันกับครอบครัวที่โต๊ะ อาม่าปลอบใจเธอว่า ไม่ต้องเสียใจ กลับมาอยู่บ้านเราเดี๋ยวอาม่าจะดูแลหนูเอง เสี่ยจำเริญก็ให้กำลังใจว่าจะหาทนายเก่งๆมาสู้คดีให้ อาอี๊ก็ให้ความหวังว่าบริษัทปิดไปแล้วก็เปิดใหม่ได้ ใครๆเขาก็ทำแบบนี้กันทั้งนั้นแหละ เจ๊หญิงก็ให้ถือเสียว่าเป็นการพักร้อนก็แล้วกันเพราะที่ผ่านมาเธอทำงานหนัก มาก อดแขวะไตรรัตน์ไม่ได้ตามเคยว่า

“ดีแล้ว จะได้มีเวลาอยู่กับอาตี๋น้อยเยอะๆ ลูกฉันยิ่งไม่ค่อยจะมีน้ำยาอยู่”

ทานอาหารเสร็จ ไตรรัตน์ให้เธอขี่คอขึ้นไปพักผ่อนเพราะดูเธออ่อนเพลียมาก แต่ทันทีที่เปิดประตูห้อง ทั้งคู่ก็ผงะเมื่อเห็นโบตั๋นอุ้มตุ๊กตายืนอยู่ที่เตียง หน้าตาเอาเรื่อง!

“ขโมย พี่ไตรของหนูไปทำไม กรี๊ดดดด!” โบตั๋นตวาดอย่างเกรี้ยวกราดกรี๊ดลั่น แล้วหายวับจากเตียงมากระชากสุคนธรสจากหลังไตรรัตน์ร่วงโครมแล้วลากหายไปใต้ เตียงทันที พร้อมกับประตูห้องปิดโครม!

พวกอาม่าที่ยังนั่งกินอาหารกันอยู่ตกใจ อาม่าพึมพำเสียงแหบ... “โบตั๋นเอาอีกแล้ว!”

ทั้งหมด พากันขึ้นไปชั้นบนยืนร้องเรียกตี๋น้อยให้เปิดประตูอยู่หน้าห้อง แต่ไตรรัตน์กำลังเจรจาหว่านล้อมโบตั๋นให้ยอมรับสุคนธรส บอกว่าเป็นพี่สะใภ้ของโบตั๋นก็เหมือนเป็นพี่สาวของโบตั๋นอีกคน โบตั๋นไม่ยอมบีบคอตุ๊กตาแต่ทำให้สุคนธรสหายใจไม่ออกร่างถูกตรึงอยู่กับผนัง เธอบอกให้ไตรรัตน์หยิบมีดหมอในย่ามให้

พอไตรรัตน์หยิบมีดหมอออกมา โบตั๋นก็แผดเสียงร้องกรี๊ดๆบอกว่าตนกลัว ให้พี่ไตรทิ้งมีดคร่ำครวญอย่าทำหน ูหนูรักพี่ไตร...แต่สุคนธรสบอกให้เขาเขวี้ยงมีดไปที่โบตั๋นเลย

ไตรรัตน์ถือมีดทรุดนั่งร้องไห้อย่างทรมานใจ ไม่รู้จะทำอย่างไรดีทั้งรักน้องทั้งห่วงเมีย

ที่หน้าห้อง บรรดาอาม่า อาอี้ เจ๊หญิงและเสี่ย พากันตะโกนให้เปิดประตู โบตั๋นตะโกนสวนมาว่า

“อย่า มายุ่งนะ หนูจะสั่งสอนยัยหน้าแหลมนี่ มันแย่งพี่หนู!” แต่เสียงข้างนอกยังหว่านล้อมกันขรม โบตั๋นโมโหตะโกนบอกว่า “ถ้าทุกคนบังคับหนู หนูจะเอาพี่ไตรไปอยู่ด้วย”

“หา! โบตั๋น...อย่าทำพี่เขานะ อย่า! เปิดประตูให้แม่เข้าเถอะลูก ฮือๆๆ” เจ๊หญิงร้องไห้กลัวไตรรัตน์จะได้รับอันตราย คนอื่นๆก็ร้องห้ามกันเสียงหลง

ไตรรัตน์ ต่อรองกับโบตั๋นจะยอมไปอยู่ด้วยเดี๋ยวนี้เลย แต่โบตั๋นต้องปล่อยสุคนธรสก่อน พูดจบไตรรัตน์เอามีดหมอจ่อที่อกตัวเอง สุคนธรสตกใจร้องห้ามพร้อมกับเรียกกุมาริกาให้มาช่วย

มีเสียงลม วิ้ววววว...เข้ามาทันที กุมาริกาแหวกอากาศเข้ามา ทำมือปัดส่งพลังไปกระแทกมือที่ถือมีดหมอของไตรรัตน์มีดหมอกระเด็นจากมือ แล้วกุมาริกาก็พุ่งเข้าชนวิญญาณโบตั๋นล้มกลิ้งไป ตุ๊กตาร่วงจากมือ ทำให้ร่างสุคนธรสที่ถูกตรึงอยู่กับผนังร่วงลงมา

“รส...ที่รัก เป็นไงบ้าง” ไตรรัตน์ผวาเข้าประคองอย่างเป็นห่วง

“ฉัน ก็อยากเตะนายน่ะซิ คิดได้ไง จะฆ่าตัวตายเพื่อช่วยฉัน” พูดแล้วผลักไตรรัตน์ออกไป “ค่อยคิดบัญชีกับนายทีหลัง ฉันขอปราบพยศน้องสาวนายก่อน

กุมาริกาถูกโบตั๋นกระโดดขี่หลังกระชากมวยผม จนหน้าหงายท่าทางกำลังแย่ สุคนธรสจึงควานหาหนุมานของหลวงพ่อสุ่นออกมาช่วย โบตั๋นตกใจร้องกรี๊ด แล้วหายตัวไป ทำให้ทุกอย่างในห้องกลับมาเป็นปกติและประตูก็เปิดผางออก พวกอาม่าตะลึง เมื่อเห็นไตรรัตน์นั่งหมดสภาพอยู่ที่พื้น

“ทีนี้ทุกคนจะเล่าความจริงให้รสฟังได้หรือยังคะ ว่าเกิดอะไรขึ้นกับโบตั๋น” สุคนธรสถามหน้าขรึมเครียด

ทุกคนในบ้านไตรรัตน์มองหน้ากันอย่างจำต้องเล่าความจริงให้สุคนธรสฟัง...

หลัง จากฟังเรื่องราวเมื่อ 16 ปีก่อน วันที่โบตั๋นจะเอาของขวัญวันเกิดที่ทำเองไปอวยพรไตรรัตน์ แต่ระหว่างจอดรถรอรับเจ๊หญิงที่ร้านทำผม รถที่โบตั๋นนั่งรอแม่อยู่ ถูกรถกระบะที่คน
ขับเหมือนเมายาขับพุ่งชนทำให้โบตั๋นเสียชีวิต

“งั้นฉัน รู้แล้ว” สุคนธรสเอ่ยเมื่อฟังจบ อาม่าถามว่ารู้อะไร? “รู้ว่าจะช่วยวิญญาณน้องโบตั๋นให้สงบลงยังไงน่ะซิคะอาม่า แล้วก็รู้ด้วยว่าที่วิญญาณยึดติดอยู่กับอาตี๋น้อยของทุกคน ก็เพราะวันที่โบตั๋นตายเป็นวันเกิดของไตรรัตน์พอดี โบตั๋นไม่ได้อวยพรวันเกิดพี่ชายตามที่ตั้งใจ จึงเป็นบ่วงคอยรั้งวิญญาณไว้ไม่ให้ไปไหน จนกว่าจะทำตามความตั้งใจเดิมก่อนตายสำเร็จ” แล้วสุคนธรสก็ชวนไตรรัตน์ “ไปเถอะนายไตวาย ไปหาน้องนายด้วยกัน”

เมื่อสุคนธรสพาไตรรัตน์เข้าไปใน ห้องของโบตั๋น ทีแรกก็ถูกไล่ตะเพิด แต่พอสุคนธรสบอกว่าวันนั้นน้องอยากอวยพรพี่ชาย น้องอยากพูดอะไร แต่ยังไม่ได้พูด ก็ทำให้โบตั๋นรู้สึกดีขึ้น แล้วสุคนธรสก็ให้กุมาริกาใช้มนต์สะกดให้ไตรรัตน์หลับ...หลับลึกอย่างเร็ว

ใน ความหลับลึกนั้น...ไตรรัตน์ย้อนเวลากลับไปในวัย 16 ปี เขาอยู่กับโบตั๋นน้องสาวผู้น่ารัก ที่จะมอบของ ขวัญวันเกิดให้พี่ชาย แต่หาของขวัญไม่เจอ โบตั๋นเสียใจมากร้องไห้ขอให้พี่ไตรช่วยหาของขวัญที่หายไป

“ที่วิญญาณไม่ยอมไปไหน ก็เพราะกล่องของขวัญที่หายไปนี่เอง” กุมาริกาเอ่ย

“ไม่ ต้องห่วงนะโบตั๋น พี่จะบอกทุกคนในบ้านให้ช่วยกันหากล่องของขวัญให้เอง แต่โบตั๋นต้องใจเย็นๆนะ ค่อยๆหา พี่ไตรรู้ว่าโบตั๋นมีของขวัญจะให้ พี่ไตรต้องตั้งตารอแน่”

สุคนธรสปลอบใจ ทำให้โบตั๋นมองเธอด้วยแววตาที่ไว้ใจขึ้น...

ooooooo

กรรณามาอยู่ที่บ้านของพงอินทร์ในบริเวณของบ้านเวียงทับ เธอสะเทือนใจที่ต้องปิดบริษัทและแยกกับเพื่อนๆจนตกอยู่ในความซึมเศร้า

พงอินทร์กับก๊องพยายามแหย่เธอหมายให้คลายเครียด แต่ทั้งสองกลับต้องเครียดเมื่อถูกกรรณาปฏิเสธและขออยู่คนเดียว พงอินทร์พยายามที่จะทำให้เธอหายเครียดด้วยการทำงานต่อ บอกว่าจะจ้างเธอทำงานโดยให้ค่าจ้างเพิ่มจากแผนยุทธเป็นสองเท่า...เธอเฉย พงอินทร์เสนอเป็นสามเท่า...ก็ถูกปฏิเสธ เธอเล่าเศร้าๆว่า

อ่านละคร สื่อรักสัมผัสหัวใจ 2 ตอนที่ 17 วันที่ 30 ต.ค. 56

บทประพันธ์โดย:ณารา/ร่มแก้ว/ซ่อนกลิ่น/เก้าแต้ม/แพรณัฐ จากบทละครโทรทัศน์ทางช่อง 3
บทโทรทัศน์ : ทิพย์ธิดา ศรัทธาทิพย์, สุธิสา วงษ์อยู่, เบญจมาศ ดาลหิรัญรัตน์, ศักดิ์ชาย เกียรติปัญญาโอภาส, โรจนินทร์ และ ณัชชานิษฐ์ จิรรุ่งโรจน์
สื่อรักสัมผัสหัวใจ 2กำกับการแสดง : ตระกูล อรุณสวัสดิ์
สื่อรักสัมผัสหัวใจ 2 ผลิต : ค่ายชลลัมพี โปรดั๊กชั่น จำกัด
สื่อรักสัมผัสหัวใจ 2 แนวละคร : คอเมดี้
สื่อรักสัมผัสหัวใจ 2 วันเวลาออกอากาศทุกวันศุกร์ -เสาร์ และอาทิตย์ เริ่มเวลา 20.15
ติดตามชมสื่อรักสัมผัสหัวใจ 2 ได้ทางไทยทีวีสีช่อง 3
ที่มา ไทยรัฐ

อ่านละคร สื่อรักสัมผัสหัวใจ 2 ตอนที่ 16 วันที่ 29 ต.ค. 56


กรรณา สวนไปว่า “ฉันไม่กลัว” ก็ถูกน้ำหนึ่งเสียงดังใส่ว่าตนกลัว เพราะช่อเพชรเคยขู่เอาชีวิตตน และถ้ารู้ว่าตนช่วยเหลือพวกเธอ ตนอาจเจอแบบที่พงอินทร์เจอก็ได้ พูดแล้วโวยวาย “ฉันกลัว...ฉันไม่อยากตาย”

กรรณาเสนอให้ไปแจ้งความให้ตำรวจช่วยดูแล น้ำหนึ่งถามว่าใครจะดูแลตนได้ตลอด 24 ชั่วโมง แล้ววิ่งร้องไห้ออกไป พงอินทร์ตามไปปลอบ กรรณามองตามทั้งสองไปฮึดฮัดๆ

พงอินทร์ตามไปคุย น้ำหนึ่งหันกลับมาด้วยสีหน้าที่เปลี่ยนไป พูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน “โจ้...หนึ่งขอโทษ เมื่อกี๊หนึ่งคิดถึงตัวเองมากไปหน่อย หนึ่งรู้ว่าโจ้รักพี่สาวมาก หนึ่งจะช่วยให้ถึงที่สุด อะไรที่หนึ่งทำได้หนึ่งจะทำ”

“หนึ่งพูดจริงเหรอ” พงอินทร์ดีใจที่ยังไม่ทันพูดอะไรน้ำหนึ่งก็เป็นฝ่ายเสนอตัว


“แต่หนึ่งไม่อยากให้ตำรวจมาดูแล หนึ่งอยากให้เป็นโจ้ได้ไหม”

“เริ่มพรุ่งนี้นะ ดูสภาพผมวันนี้ คิดว่าต้องมีคนดูแลผมก่อน”

ทั้งคู่ยิ้มให้กัน แต่พอใบหน้าพ้นสายตาพงอินทร์ยิ้มหวานของน้ำหนึ่งก็เปลี่ยนเป็นยิ้มร้ายทันที!

ooooooo

มิรันตีถูกพาไปที่บริษัทซิกซ์เซ้นส์ในสภาพหมดสติ แต่พอรู้สึกตัวขึ้นมาเธอก็อาละวาดจะออกไปหา รอบบี้ คิดส์ให้ได้ ด่าติณห์ว่าขัดขวางความรักของตน เพราะตนกำลังจะแต่งงานกับรอบบี้ คิดส์อยู่แล้ว

“ตั้งสติดีๆค่ะ แล้วคุณจะเห็นว่าสิ่งที่คุณรู้สึกมันเป็นแค่มายา ไม่ใช่ความจริง” ญาณินติง กลับถูกด่าหาว่าชีวิตตนพังพินาศเพราะเธอ

มิรันตีวิ่งพล่านจะไปหาสมคิดให้ได้ บอกณัฐเดชขอแจ้งความถูกลักพาตัวกักขังหน่วงเหนี่ยว บอกณัฐเดชต้องพาตนออกไปจากที่นี่ เมื่อไม่ได้ดั่งใจก็แย่งมือถือของก๊องวิ่งเข้าห้องน้ำโทร.หาสมคิดแต่โทร.ไม่ ติด ซ้ำถูกคุณหลวงเปิดฝักบัวใส่จนเปียกปอนต้องออกจากห้องน้ำ

ในที่สุดมิรันตีก็ถูกติณห์พาไปอยู่ในห้องหนึ่งที่บริษัทซิกซ์เซ้นส์ให้ก๊อ งเฝ้าไว้ มิรันตีพูดอย่างไม่ยอมแพ้ว่าขังตนได้แต่ตัวแต่ขังใจไม่ได้ ตนจะอยู่ที่นี่เพื่อดูความพินาศของญาณิน ทุกคนฟังแล้วเซ็ง

หลังจากนั้น ติณห์ ญาณิน เนตรสิตางศุ์ หมอวรวรรธ ณัฐเดชและป้าออ ก็ออกไปนั่งหารือกันที่ใต้ต้นไม้ ณัฐเดชเชื่อว่าการที่เบญจาเข้ามาในชีวิตพวกญาณินไม่ใช่เรื่องบังเอิญ เนตรสิตางศุ์ถามว่าหมอสมคิดส่งเธอมาเพื่ออะไร? หมอบอกว่าเพื่อแก้แค้น ซึ่งติณห์ก็เชื่อเช่นนั้น

“ถ้าอย่างนั้นก็แสดงว่าเราเจอศึกหนักอีกแล้วสิคะ” ป้าออวิตก

“หนักมากด้วย...เพราะนังเบญจามันเหมือนหนูเนตร ได้ยินเหมือนหนูกรรณา แล้วยังมีอาคมเหมือนหนูรส นี่ถ้ามันมีเซ้นส์ด้านสัมผัส ได้กลิ่นหรือถอดจิตได้เท่ากับว่า มันคนเดียวมีครบทุกอย่างที่พวกหนูทั้งห้าคนมี” คุณหลวงชี้ให้เห็นอันตรายของเบญจา

เหตุการณ์ที่ใต้ต้นไม้นี้ เบญจาที่นั่งอยู่ในรถกับสมคิดโดยมีกรกฎเป็นคนขับ รับรู้ทั้งหมด ความแค้นติณห์ระอุอยู่ในอก ดวงตาเธอกลายเป็นสีขาว สมคิดเห็นอาการ ของเบญจาก็ยิ้มพอใจ

เมื่อคาดการณ์ว่าสถานการณ์ตึงเครียด หมอ วรวรรธกับติณห์เสนอให้พวกเราทุกคนต้องรวมตัวกันไว้อย่าให้ใครอยู่ตามลำพัง ไม่อย่างนั้นเราจะไม่มีทางทำอะไรเบญจาได้

“พวกเราใจเย็นก่อนนะ อย่าเพิ่งกังวลไปเกินกว่าเหตุ ที่นี่มีผ้ายันต์และสายสิญจน์ของแม่หมอสุคนธรส คุ้มกันอยู่ ตราบใดที่พวกเรายังอยู่ในบริษัท พวกมันทำอะไรเราไม่ได้แน่” ญาณินเอ่ย

แต่ญาณินพูดไม่ทันขาดคำ ติณห์ก็ผงะอึ้งเมื่อมองไปนอกรั้วเห็นเบญจายืนอยู่ ครั้นเพ่งมองก็ไม่เห็นแล้ว อึดใจเดียวก็ได้ยินเสียงเบญจามาเรียกอยู่ข้างหู พอติณห์
บอกทุกคนตึงเครียดทันที

ไม่ทันหายเครียดเรื่องเสียงเบญจา ทุกคนก็ตกใจเมื่อมีเสียงมิรันตีอาละวาดกับก๊องที่เฝ้าอยู่ เมื่อวิ่งไปดูเห็นมิรันตีถือมีดคมกริบในมือต่างชะงักระวังตัว มิรันตีบอกว่าตนไม่ทำอะไรใครแต่จะฆ่าตัวตายถ้าติณห์ไม่สั่งให้ทุกคนถอยไป ทำให้ทุกคนต้องถอยเปิดทางให้ แต่พอมิรันตีเดินไปเกือบถึงประตูก็ถูกคุณหลวงจับมือตรึงไว้ ณัฐเดชถือจังหวะนั้นเข้าชาร์จทันที

ทันใดนั้น เสียงรถหวอตำรวจก็แว่วเข้ามา ป้าออทำหน้าเหมือนจะร้องไห้ถามอย่างว้าวุ้นใจว่า

“มันอะไรกันนักหนาวะ เอ๊ย...คะ เนี่ย?!”

ooooooo

รถตำรวจแล่นเข้ามาจอดหน้าบริษัท ผู้การก้าวลงจากรถนำเจ้าหน้าที่คุ้มครองผู้บริโภคเข้าไปในบริษัท ผู้การแจ้งแก่ณัฐเดชและหมอวรวรรธที่ออกมารับหน้าถามว่า

มีคนแจ้งว่าบริษัทนี้จดทะเบียนเป็นบริษัทอินทีเรียร์ดีไซน์บังหน้าแต่ที่แท้ เปิดเป็นสำนักปราบผี หลอกหากินกับ ความเชื่อความงมงายของประชาชน โดยมีเจ้าหน้าที่อำนวย ความสะดวก ผู้การให้ตำรวจแสดงหมายค้นแล้วเข้าไป ตรวจข้างในเลย

ญาณินพยายามชี้แจงทัดทานแต่ในที่สุดก็ถูกตำรวจยึดทุกสิ่งทุกอย่างไปแม้ กระทั่งมือถือที่เธอถ่ายรูปตำรวจยึดของไว้เป็นหลักฐานก็ถูกยึดไปอ้างว่า ในมือถือนี้อาจมีข้อมูลสำคัญขอเอาไปตรวจด้วย!

มิรันตีฉวยโอกาสนี้ตะโกนร้องขอความช่วยเหลือว่าตนถูกกักขังหน่วงเหนี่ยว

ญาณินประกาศห้ามแจ้งเจ้าหน้าที่ขนอะไรออกไปเด็ดขาด ถามเจ้าหน้าที่ว่าบอกได้ไหมว่าคนที่ร้องเรียนว่าพวกตนต้มตุ๋นชาวบ้านนั้น เป็นใคร ถ้าบอกไม่ได้ก็ห้ามขนอะไรออกไปเด็ดขาด

“ผมเป็นคนร้องเรียนเจ้าหน้าที่เอง” แผนยุทธปรากฏตัวออกมาอย่างเอาเรื่องทวงถามและกล่าวหาว่า “พวกคุณบอกผมว่าสามารถช่วยปลดปล่อยวิญญาณภรรยาของผมได้ รับเงินผมไปแล้ว แต่ไม่เห็นพวกคุณจะทำอะไร นอกจากอ้างว่าซับซ้อน ผลาญเวลา ผลาญเงินของผมไปวันๆ แต่ไม่มีอะไรคืบหน้าเลย มันก็ชัดเจนว่าพวกคุณกำลังทำอะไรอยู่”

ขณะนั้นเอง เจ้าหน้าที่ก็เอาสายสิญจน์ ผ้ายันต์และหุ่นกุมารทองที่ยึดได้มาให้ดู ผู้การถือว่านี่เป็นหลักฐานสำคัญเอาหลักฐานต่างๆ มาวางเรียงไว้เต็มโต๊ะไปหมด
ทันใดนั้น มิรันตีวิ่งพรวดเข้ามาฟ้องผู้การว่า ตนถูกพวกนี้ลักพาตัวมากักขังหน่วงเหนี่ยว ยุให้จับพวกญาณินไปให้หมดเพราะพวกนี้อ้างเอาเรื่องการตบแต่งรีสอร์ตมาหลอก ลูกชายตนให้หลงจนโงหัวไม่ขึ้นเหมือนโดนของ

“เห็นไหม ไม่ได้มีแค่ผมคนเดียว ทีนี้ยังหาว่าผมใส่ร้ายพวกคุณอีกได้ไหมครับ” แผนยุทธได้ทีเยาะเย้ยพวกญาณิน ถูกกระหน่ำรอบด้านขนาดนี้ ญาณินถึงกับเถียงไม่ออก

เหตุการณ์วุ่นวายสับสนยิ่งขึ้น เมื่อกรรณาพาน้ำหนึ่งและพงอินทร์มาที่บริษัทเจอตำรวจกำลังยึดข้าวของใน บริษัท เธอปราดเข้าไปถามว่าเกิดอะไรขึ้น แผนยุทธเห็นกรรณาก็พรวดออกมาชี้ตัวให้ตำรวจจับ อ้างว่าเธอเข้าไปในบ้านตนหลอกตนและตอนนี้ก็กำลังหลอกน้องเมียตน เป็นพวก 18 มงกุฎชัดๆ ให้ตำรวจรวบตัวไปให้หมดเลย

พงอินทร์ลงจากรถมีน้ำหนึ่งตามมาด้วย พอแผนยุทธเห็นก็ชี้ว่านี่คือน้องเมียตนที่บัดนี้ถูกล้างสมองเพื่อยุแหย่ให้ แตกแยกกับตนจะได้หลอกเอาเงินมรดกที่เขาจะได้รับไป

แผนยุทธด่าและกล่าวหาห้าสาวซิกซ์เซ้นส์เสียจนพงอินทร์ทนไม่ได้ตรงเข้าชกหน้า แต่เพราะเจ็บแผล พอแผนยุทธเบี่ยงตัวหลบ พงอินทร์ก็ถลำหน้าคว่ำไปกองกับพื้น ผู้การเห็นความวุ่นวายเลยเชิญทุกคนไปให้การที่โรงพัก

แผนยุทธเดินเลี่ยงไปพบสมคิดกับเบญจาในรถที่จอดซุ่มอยู่ เพียงสบตาเบญจาแผนยุทธก็ถูกอาคม พูดยกย่องสมคิดและเบญจาว่าปรารถนาดีต่อตนทุกสิ่งอย่างที่ทำเป็นความคิดของตน เอง จะลืมให้หมดว่าได้เจอทั้งสองคน สมคิดฟังแล้วพอใจมาก ชมเบญจาว่าเยี่ยมมาก เบญจาจิกตาแค้นไปที่ติณห์ สมคิดเตือนสติว่า

“ยังไม่ใช่ตอนนี้!!! เก็บความแค้นเอาไว้ พอถึงเวลาพ่อจะให้เอ็งคิดบัญชีกับไอ้ติณห์อย่างสาสมแน่”

ooooooo

พวกญาณินมองสภาพบริษัทที่ถูกรื้อค้นจนยับเยินทั้งสลดทั้งเจ็บแค้น สุคนธรสโกรธมากประกาศ จะเสกตะปูเข้าท้องตำรวจ จนไตรรัตน์ต้องเข้าโอบปลอบใจว่า

“ใจเย็นๆ คุณรส ไม่มีปัญหาไหนแก้ไม่ได้ สิบทางตันต้องมีหนึ่งทางออก...นะครับ...”

ลีจองกุ๊กเห็นสภาพไม่ดีเร่งจุนจีให้รีบกลับ จุนจีไม่ยอมกลับ บอกว่าจะไม่ทิ้งกรรัมภาเอาตัวรอดเด็ดขาด

“เชื่อเถอะ ถ้าจะช่วยคุณแก้ม ก็ต้องช่วยแบบซุปตาร์ มันยังมีวิธีอื่นอีกมาก แต่ตอนนี้ขึ้นรถเถอะ”

ลีจองกุ๊กผลักจุนจีขึ้นรถขับออกไปเลย กรรัมภามองตามไปอย่างเจ็บปวด

ที่โรงพัก แผนยุทธชี้ที่ 5 สาวฟ้องผู้การว่าพวกนี้หลอกลวงต้มตุ๋นตน หลอกว่ามีวิญญาณผีตามรังควาน ทำให้ตนหลงเชื่อจ้างพวกเธอมาไล่ผี ถูกกรรณาเอาความ จริงมาแฉว่าเขาถูกผีรังควานจนไม่ได้นอนจึงไปหาพวกตนให้มาช่วยไล่ผี แผนยุทธไม่ยอมรับ พงอินทร์เลยแฉว่า แผนยุทธสร้างเรื่องผีขึ้นมาเพื่อกลบเกลื่อนเรื่องที่เขาฆ่าพี่สาวตน

แผนยุทธหาว่าพงอินทร์บ้าไปแล้ว พงอินทร์พุ่งเข้าไปจะชก ถูกณัฐเดชรั้งตัวไว้ ผู้การจึงรวบรัดตัดบทว่า

“ไม่ต้องเถียงกัน ฟังผม! เรามีหลักฐานที่ตรวจยึดค้นได้จากบริษัทของพวกคุณครบ นอกจากนี้พวกคุณยังมีข้อหาลักพาตัว กักขังหน่วงเหนี่ยว แถมคุณยังทำร้ายร่างกายคู่กรณีอีก เพราะฉะนั้นผมคงต้องเชิญพวกคุณเข้าไปอยู่ในคุกอย่างจนใจ ทั้งๆ ที่กลัวว่าผิวสวยๆอาจต้องถูกเหลือบริ้นไรและยุงเต๊าะ!”

5 สาวและ 6 หนุ่ม พากันโวยวายจนฟังไม่ได้ศัพท์ ผู้การจอมเพี้ยนเอาทิชชูอุดหูหัวเราะร่าว่า พูดไปเถอะ ตนไม่ได้ยินอะไรทั้งนั้น

กุมาริกาป้วนเปี้ยนอยู่หน้าห้องสอบสวนอย่างกระวนกระวายใจ พลันก็ดีใจเมื่อเห็นเจ๊หญิงสะพายกระเป๋าเดินมาที่โรงพัก เจ๊หญิงหอบโฉนดที่ดินมา 18 แปลง ล้วนเป็นที่ดินในทำเลทอง ยังมีสมุดบัญชีเงินฝากประจำอีก 30 บัญชีมาประกันตัวทุกคนออกไป

ผู้การจึงให้ทุกคนไปถ่ายรูปในฐานะผู้ต้องสงสัยแล้วให้ประกันตัวออกไป

สุคนธรสขอบคุณเจ๊หญิงที่มาประกันตัวเพราะไม่อย่างนั้น คืนนี้ทุกคนคงต้องนอนตบยุงกันในคุกเป็นแน่ พวก 5 สาวก็ยกมือไหว้ขอบคุณเจ๊หญิง เจ๊หญิงพูดอย่างรู้ไส้รู้พุงหมอผีสมคิดดีว่า

“ในฐานะอดีตสาวกหมอสมคิดผู้หลงผิด ฉันเห็นความแสบของมันมาเยอะ ฉันกล้าฟันธงได้เลยว่า ไอ้หมอสมคิดมันต้องคิดการใหญ่กว่านี้” ไตรรัตน์พูดแทรกว่า เช่นตั้งสำนักใหม่? “ใช่...ปล่อยผีมาไล่ฆ่าพวกเรา ไอ้หมอสมคิดมันไม่ธรรมดา มันทำได้หมดแหละ”

ทุกคนเป็นกังวลขึ้นมาอีก โดยเฉพาะญาณินคิดที่จะต้องทำอะไรบางอย่างแล้ว

ระหว่างนั้นติณห์เห็นทนายสมชาติมาเดินกระวนกระวายอยู่แถวนั้น จึงลุกเดินไปหา ปรากฏว่าทนายสมชาติได้รับมอบหมายจากมิรันตีให้ฟ้องพวกญาณิน ทนายสมชาติพูดออกตัวว่าเมื่อก่อนตนหลงผิดมองติณห์กับพวกญาณินในแง่ร้าย แต่ตอนนี้ตนตาสว่างรู้ความจริงหมดทุกอย่างแล้ว แต่เพราะเป็นทนายของมิรันตีจึงต้องทำตามหน้าที่

ติณห์ถามว่าแล้วอยู่ๆเขารู้ขึ้นมาได้ยังไง

“ผมไม่รู้จะอธิบายอย่างไร รู้แต่ว่าป่านนี้คุณมิรันตีคงรู้ความจริงเหมือนผม”

ที่แท้คือ...มิรันตีอาศัยความชุลมุนหลบออกจากบริษัทซิกซ์เซ้นส์ไปนั่ง ร้องไห้คร่ำครวญถึงรอบบี้ คิดส์ อยู่ที่สวนสาธารณะ รอทนายสมชาติที่โทร.ตามให้มาหา
สมชาติขับรถตามเจอมิรันตีรีบลงไปหา ไม่ทันถามไถ่อะไรกัน มิรันตีก็ไปขึ้นรถขับออกไปทันที บ่ายหน้าไปรีสอร์ตหมายได้เจอหวานใจรอบบี้ คิดส์

แต่พอไปถึง ที่นั่นกลายเป็นรีสอร์ตร้าง คุณหลวงที่ตามไปด้วยบอกมิรันตีว่า สิ่งสวยงามที่เธอเคยเห็นที่รีสอร์ตนั้นเป็นแค่ภาพลวงตาที่เบญจาใช้อาคมสร้าง ขึ้นมาหลอกตาเท่านั้น

มิรันตีเข่าอ่อนทรุดนั่งอย่างหมดแรงอยู่ในรีสอร์ตที่บัดนี้เงียบและรกเหมือนป่าช้า...

ooooooo

ผ่านเหตุการณ์วุ่นวาย สับสน เฉียดตาย ร้ายแรงนี้แล้ว ณัฐเดชกับหมอวรวรรธถูกผู้การสั่งพักงาน หมอวรวรรธถามว่าพวกตนทำผิดอะไร สั่งพักงานอย่างนี้ หมายความว่าอย่างไร

“ก็หมายความว่า 1 เดือนต่อจากนี้ พวกคุณไม่ได้เป็นตำรวจอีกต่อไป ดังนั้น ทุกอย่างที่พวกคุณทำก็ไม่ต้องรายงานผม พวกคุณอยากจะทำอะไรก็ทำตามใจ ชอบไง ส่วนผมก็จะคอยติดตามดูพวกคุณอยู่ห่างๆ อย่างห่วงๆ” พูดแล้วผู้การหลิ่วตาให้

พอออกจากห้องผู้การแล้ว หมอวรวรรธบ่นว่า “ผมตามท่านผู้การไม่เคยทันเลย”

“ได้เวลาลุยแบบนอกกรอบได้แล้ว ไอ้หมอวรรธ ไสยศาสตร์ที่ไร้ข้อจำกัด ก็ต้องเจอกับตำรวจไร้ข้อจำกัดไงล่ะ”

ส่วนที่บริษัทซิกซ์เซ้นส์ ญาณินเดินนำทุกคนมานั่ง คุยกันเป็นการส่วนตัว ทุกคนคาดหมายว่าเจ๊จะมีแผนลุย แต่ที่แท้ญาณินเสนอเรื่องที่ทำให้ทุกคนตกใจว่า

“ฉันอยากให้เราปิดบริษัทนี้ไปก่อน แล้วเราแยกย้ายไปตั้งหลักกันสักพัก แยกกันเราอาจจะรอด แต่ถ้าเรายังรวมตัวอยู่ด้วยกัน อาจจะตกเป็นเป้าของหมอสมคิดหมดทั้ง 5 คน”

เนตรสิตางศุ์ร้องไห้ก่อนเพื่อน ญาณินบอกว่า “แค่แยกกันชั่วคราวเท่านั้น บอกแล้วไงว่าแค่ตั้งหลัก พวกเราทั้ง 5 คนยังคงเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันอยู่ เมื่อเราพร้อม เราจะต้องได้กลับมาพร้อมหน้ากันอีก”

5 สาวกอดกันร้องไห้ แต่ในที่สุดต่างก็แยกย้ายกันไปตามทางของตน

ญาณินกับติณห์อยู่ที่บริษัท สุคนธรสไปกับไตรรัตน์ หมอวรวรรธพาเนตรสิตางศุ์ไปส่งที่บ้าน พงอินทร์พากรรณากับก๊องไปอยู่บ้านเวียงทับ กรรณาโวยวายว่าทำไมไม่พาตนกลับบ้าน พงอินทร์จึงบอกความจริงกับเธอว่า

“จะกลับได้ยังไง ในเมื่อผมโทร.ไปเช็กมาแล้ว น้ากุ้งนางไม่อยู่ ต้องไปเป็นหัวหน้าทีมอบรมพยาบาลอาสาที่ขอนแก่นตั้งสองอาทิตย์”

กรรณาโวยว่ารู้ได้ไงว่าแม่ตนทำอะไรอยู่ที่ไหน พงอินทร์พูดอย่างกระหยิ่มว่า

“แถมยังรู้นะว่าน้ากุ้งนางแม่คุณไม่เคยเชื่อว่าคุณได้ยินเสียงผี แล้วถ้าน้ากุ้งนางรู้เข้าว่าบริษัทซิกซ์เซ้นส์ ของคุณและเพื่อนโดนฟ้องว่าต้มตุ๋นหลอกลวงประชาชน ล่ะก็...มันจะเกิดอะไรขึ้นน้า...”

พงอินทร์รวบรัดว่าเธอกับก๊องอยู่บ้านตนนี่แหละปลอดภัยที่สุด ถามว่าเคยได้ยินไหมที่เขาบอกว่า ที่ที่อันตรายที่สุดคือที่ที่ปลอดภัยที่สุด กรรณาทำท่าจะเถียง อีก ก๊องรีบกระซิบบอกว่า

“พี่กรรณาตอบตกลงไปก่อนเถอะ ป้ากุ้งนางแม่พี่ไม่อยู่บ้านด้วย ถ้าเขากลับมาแล้วค่อยว่ากันใหม่”กรรณาเลยนิ่งไป

ooooooo

เมื่อกลับถึงบ้าน เนตรสิตางศุ์ลงมือทำอาหารให้ณัฐเดชกับหมอวรวรรธทานอย่างภูมิอกภูมิใจตามเคย

แต่คราวนี้เนตรสิตางศุ์ต้องเสียใจอย่างที่สุด เมื่อสุพิชชามาพูดความจริงว่า อาหารที่เธอทำนั้นทุกคนต้องกล้ำกลืนกินกันตลอดมา ตำหนิทั้งณัฐเดชและหมอวรวรรธว่าทำไมไม่พูดความจริงให้เนตรสิตางศุ์รู้

ทั้งณัฐเดชและหมอวรวรรธตกใจที่สุพิชชาพูดความจริงออกมา ณัฐเดชพยายามจะให้เธอหยุด แต่เธอกลับยิ่งพูด...

“ทำไมคนที่จริงใจต่อกันไม่เตือนกันบ้าง น้องเนตรเธอควรจะรู้ตัวสักทีว่า อาหารที่เธอทำมันรสชาติสยดสยองมากเมนูปัญญาอ่อนพวกนี้ ใครทำกัน พี่ณัฐฝืนใจกินแล้วแอบไปอ้วกทิ้งมากี่ปีกี่ชาติแล้ว”

หมอวรวรรธขอร้องณัฐเดชให้พาสุพิชชาออกไปก่อน สุพิชชายิ่งฉุน จ้องหน้าหมอบอกว่า ตนไม่ได้พาล มันคือความจริง “ทุกคนในที่นี้มีใครกล้าพูดไหมล่ะว่าชอบกินอาหารฝีมือยัยเนตร อยากกินทุกวันเลย...นี่ต่างหากความจริง”

เนตรสิตางศุ์ถามณัฐเดชว่าจริงหรือ ณัฐเดชอึกอัก สุพิชชาได้ทียิ่งรุก

“เลิกปกป้องน้องแบบผิดๆเถอะ ยัยเนตรจะได้โตและเลิกใช้ความง้องแง้งปัญญาอ่อนเรียกร้องความสนใจจากคนอื่นเสียที”

ทั้งณัฐเดชและหมอวรวรรธต่างอ้ำอึ้ง เนตรสิตางศุ์ รู้ว่านั่นคือความจริง เดินหนีไปอย่างผิดหวัง เสียใจ ณัฐเดชกับหมอต่างรีบตามไป สุพิชชามองตามทั้งสามไปอย่างสะใจ

เนตรสิตางศุ์เข้าครัวไปเอาเครื่องครัวทิ้งถังขยะ ตัดพ้อต่อว่าณัฐเดชว่าโกหกตนตั้งแต่วันแรกที่ตนเริ่มทำอาหารเลยใช่ไหม ณัฐเดชจึงเล่าความตั้งใจแต่แรกให้ฟังว่า

เพราะเนตรสิตางศุ์เอาแต่เก็บตัวไม่ไปไหน ตนอยากให้น้องมีชีวิตที่เป็นปกติมีความภูมิใจในตัวเองบ้าง และพอดีน้องหัดทำอาหาร จึงให้กำลังใจเพื่อให้น้องออกไปเรียนทำอาหาร ยอมรับว่า...

“ตอนนี้เราก็รู้แล้ว ต่อไปก็ไม่ต้องทำอาหารแล้ว หาอย่างอื่นทำแทนแล้วกัน”

อ่านละคร สื่อรักสัมผัสหัวใจ 2 ตอนที่ 16 วันที่ 29 ต.ค. 56

บทประพันธ์โดย:ณารา/ร่มแก้ว/ซ่อนกลิ่น/เก้าแต้ม/แพรณัฐ จากบทละครโทรทัศน์ทางช่อง 3
บทโทรทัศน์ : ทิพย์ธิดา ศรัทธาทิพย์, สุธิสา วงษ์อยู่, เบญจมาศ ดาลหิรัญรัตน์, ศักดิ์ชาย เกียรติปัญญาโอภาส, โรจนินทร์ และ ณัชชานิษฐ์ จิรรุ่งโรจน์
สื่อรักสัมผัสหัวใจ 2กำกับการแสดง : ตระกูล อรุณสวัสดิ์
สื่อรักสัมผัสหัวใจ 2 ผลิต : ค่ายชลลัมพี โปรดั๊กชั่น จำกัด
สื่อรักสัมผัสหัวใจ 2 แนวละคร : คอเมดี้
สื่อรักสัมผัสหัวใจ 2 วันเวลาออกอากาศทุกวันศุกร์ -เสาร์ และอาทิตย์ เริ่มเวลา 20.15
ติดตามชมสื่อรักสัมผัสหัวใจ 2 ได้ทางไทยทีวีสีช่อง 3
ที่มา ไทยรัฐ

อ่านละคร สื่อรักสัมผัสหัวใจ 2 ตอนที่ 16 วันที่ 28 ต.ค. 56


“ร่าง กายมันจะค่อยๆเน่าจากอวัยวะภายในทีละส่วน...ทีละส่วนจนเน่าไปหมดทั้งตัว... ทางที่ดีถ้าอยากรักษาชีวิตเอาไว้รีบตัดแขนข้างที่เน่าทิ้งเสีย มันจะได้ไม่ลุกลามไปที่อื่น” อาจารย์คงขู่

จุนจีอาศัยจังหวะนั้นคว้าขวดที่กักวิญญาณพิมพิลาสปาแตก แต่สุคนธรสไม่ได้กลิ่นวิญญาณ บอกจุนจีว่า อาจารย์คงเอาวิญญาณพิมพิลาสซ่อนไว้ที่อื่นก่อนแล้ว อาจารย์คงจ้องหน้าสุคนธรสตาคมกริบเมื่อรู้ว่าเธอไม่ธรรมดา!

อาจารย์คงจึงเสนอยื่นหมูยื่นแมวกับจุนจีว่า จะคืนวิญญาณพิมพิลาสให้ แต่จุนจีต้องยกมรดกทั้งหมดให้ตน ระหว่างนั้นก็ทำร้ายกรรัมภาและสุคนธรสบีบคั้นจุนจี แต่สุคนธรสสามารถทำลายและแก้อาคมของอาจารย์คงได้ครั้งแล้วครั้งเล่า

“ฉันไม่อยากมีปัญหา ปล่อยตัวคุณพิมพิลาสแล้วต่างคนต่างอยู่” สุคนธรสเสนอ


“อยากได้เมียเก่าใช่ไหม ได้ ข้าจะปล่อยมันก็ได้” อาจารย์คงหยิบตลับเล็กๆที่เก็บวิญญาณพิมพิลาสออกมาเปิด แล้วใช้อาคมบังคับวิญญาณพิมพิลาสบีบคอสุคนธรส วิญญาณพิมพิลาสร้องบอกจุนจีว่าตนถูกมันบังคับ ควบคุมตัวเองไม่ได้ มันทรมานตน

แม้จะถูกบีบคออยู่แต่สุคนธรสก็หลับตาสวดมนต์ จุนจีทนเห็นทุกคนถูกทำร้ายไม่ได้ ตัดสินใจจะยกมรดกให้อาจารย์คง ทนายสมชายคัดค้านว่ามรดกของพิมพิลาสต้องให้แก่ทายาทโดยธรรมคือจุนจีหรือไม่ ก็อติเทพที่เป็นสามีเท่านั้นจะยกให้ใครไม่ได้

“ฉันทำได้ค่ะ ฉันมีเอกสารอยู่แล้วแค่เปลี่ยนชื่อก็ใช้ได้เลย” อรวีเสนอตัว อึดใจเดียวอรวีก็เอาเอกสารมาให้อาจารย์คงบอกให้อ่านก่อนแล้วเซ็นชื่อ ขณะอาจารย์คงกำลังอ่านเอกสารอย่างพึงพอใจนั่นเอง อรวีก็เอามีดเสียบเอวอาจารย์คง พริบตานั้นบ่วงอาคมที่คล้องพิมพิลาสก็กระจายหายวับ พิมพิลาสเป็นอิสระผละออกจากสุคนธรส พุ่งเข้าบีบคออาจารย์คงจิกเล็บเข้าไปในเนื้อ

กรรัมภาขอร้องพิมพิลาสอย่าฆ่าคน อย่าสร้างกรรมให้ตัวเองด้วยอารมณ์ชั่ววูบ พิมพิลาสชะงักแล้วหันมองไปที่สำนัก พลันก็เกิดเสียงระเบิดของพวกขวดและหม้อรวมทั้งภาชนะที่เก็บวิญญาณชนิดอื่นๆ ปลดปล่อยวิญญาณที่ถูกกักขังอย่างทรมาน วิญญาณเร่ร่อนเหล่านั้น เลื้อยไปทางอาจารย์คงส่งเสียงแปลกๆน่ากลัว อื้ออึงไปหมด

“วิญญาณที่แกจับมาทรมาน จะตัดสินแกเอง” พิมพิลาสมองอาจารย์คงที่หนีลนลานทั้งที่ยังมีมีดเสียบคาเอวอยู่

เมื่อเหตุการณ์สงบแล้ว อรวีขอร้อง อ้อนวอนสุคนธรสให้ช่วยอติเทพ จุนจีไม่อยากให้ช่วยฆาตกรที่ฆ่าย่า กรรัมภาติงว่า เรายังไม่รู้ว่าอะไรเกิดขึ้นจริง อติเทพอาจจะไม่ใช่ฆาตกรตัวจริงก็ได้ และถ้าเขาไม่ใช่ฆาตกร ก็เท่ากับปล่อยให้คนบริสุทธิ์ตายต่อหน้าต่อตา

“จะคนดีหรือคนชั่ว ชีวิตก็คือชีวิต ถ้าตั้งใจปล่อยให้ตาย ยังไงก็บาป” สุคนธรสเอ่ย

“พระพุทธเจ้าตรัสว่า การให้อภัยคือการให้อันสูงสุดนะ เราควรเดินตามแนวทางของพระองค์ เราให้อภัยเขาแล้วยังคืนชีวิตให้เขาอีก บุญกุศลอาจจะช่วยให้เราพบแต่เรื่องดีๆนะทุกคน” ไตรรัตน์พูดขรึมมาดเข้ม

“เดี๋ยวนี้อ่านธรรมะด้วยเหรอ” กรรัมภาถามทึ่ง

“เมียผมสอนมาดี” ไตรรัตน์ยักคิ้วแผล็บ หน้าทะเล้นทันที ส่วนจุนจียังลังเลฮึดฮัดขัดใจที่จะปล่อยฆาตกรที่ฆ่าย่าตนให้ลอยนวลไป

ooooooo

สุคนธรสตัดสินใจช่วยชีวิตอติเทพ ว่าคาถาแล้วเป่าพ้วงที่แก้วน้ำส่งให้อรวีบอกเอาให้อติเทพดื่ม อรวีขอบคุณรับแก้วน้ำรีบป้อนอติเทพ

ระหว่างนั้น ทนายสมชายหาทางเอาตัวรอด เอ่ย ขึ้นว่า

“พวกคุณคงไม่คิดว่า พวกผมก็ทำผิดไปด้วยหรอกนะครับ ผมก็แค่ทนาย เป็นลูกจ้าง ผมก็ต้องทำตามคำสั่ง”

“แต่ผมว่า...ถ้าทำตามคำสั่งไปเรื่อยเปื่อย แล้วอ้างว่าเป็นหน้าที่ เป็นมืออาชีพ ผมก็ว่าไม่ถูกนะ เช่น คุณเป็นทนายแล้วว่าความให้ฆาตกรใจโหดรอดคดี แล้วเขาก็จะลอยนวล ไปฆ่าคนอื่นต่อๆไปอีก คุณว่าแบบนี้ไม่ผิดไม่บาปเหรอ สมมติมีคนมาข่มขืนลูกสาวคุณ แต่เขามีทนายเก่ง มาสู้คดีว่าลูกสาวคุณสมยอมไปด้วย แล้วทำให้คนคนนั้นรอดคุกไปได้ คุณจะรู้สึกยังไง”

ไตรรัตน์ผู้ชายที่มีเมียเก่งเมียดีพูดอย่างเป็นหลักการน่าฟัง แต่ทนายสมชายกลับบอกว่าเขาพูดยาว ตนคิดไม่ทันสุคนธรสกับไตรรัตน์จึงเดินแยกออกมา ไตรรัตน์บอกสุคนธรสว่าจะเอายังไงต่อไปแล้วแต่เธอ

“เรามีหน้าที่ช่วยคน คนดีคนเลวเราก็ช่วยไป เราไม่ใช่ผู้พิพากษาจะได้ตัดสินกรรมให้ใครว่าเขาสมควรตายไปต่อหน้าเรา”

ที่อีกมุมหนึ่ง กรรัมภายื่นมือให้จุนจีจับ พอจุนจี จับมือเธอก็เห็นพิมพิลาสยืนอยู่ตรงหน้าทันทีเพราะอีกมือหนึ่งของกรรัมภาจับ มือพิมพิลาสอยู่ก่อนแล้ว

“จุนจี ย่าขอโทษ...หลานทำให้ย่ารู้สึกผิด...ที่เคยใจร้ายกับพ่อแม่ของหลาน ปล่อยให้พ่อแม่หลานต้องไปดิ้นรนหาเลี้ยงปากท้องกันตามยถากรรมที่ เกาหลี...แล้วนี่...ย่ายังเป็นต้นเหตุให้หลานต้องมาเสี่ยงอันตรายอีก”

“ที่ผ่านมา ย่าต้องอยู่คนเดียว ไม่มีพวกเราดูแล ทำให้ย่าต้องไปคบกับคนพวกนั้น...ผมก็รู้สึกผิดกับย่าเหมือนกัน”

พิมพิลาสบอกว่าอยากกอดหลาน จุนจีให้กอดและกอดตอบ แต่พอลืมตาอีกที พิมพิลาสหายไปแล้ว เหลือแต่ตัวเองยืนอยู่กับกรรัมภาเท่านั้น จุนจีน้ำตาซึม กรรัมภาปลอบใจว่า

“คุณย่าคุณยังไม่ไปไหนจนกว่าจะหาตัวฆาตกรได้ อะไรที่ตอนท่านมีชีวิตทั้งท่านและคุณไม่เคยได้มีโอกาสทำตอนนี้ก็ทำเสียนะคะ มันยังไม่สายไปเสียทุกเรื่องหรอกค่ะ”

“ขอบคุณนะคุณแก้ม คุณดีกับผมมาก ยอมเสี่ยงอันตรายกับผม ผมไม่คิดเลยว่า คุณจะรักผมมากขนาดนี้”

“คนบ้า...” กรรัมภาด่าแก้เขินแล้วจะเดินไปจุน–จีจับแขนไว้ ตีหน้าตายอำว่า

“ตอนสื่อสารกับย่า ผมรู้สึกว่าย่าจะฝากฝังเรื่องคุณด้วยนะ ท่านบอกว่าผู้หญิงคนนี้ติงต๊อง ปัญญาอ่อน เพ้อเจ้อ แต่จะช่วยดูแลผมได้ ห้ามให้หลุดมือไปเด็ดขาด” กรรัมภาถามว่าคุณย่าพูดตอนไหนตนไม่เห็นได้ยิน “ใช่...ผมคิดเอง เรื่องหัวใจไม่ต้องมีใครบอกบทหรอก เรารู้กันสองคนพอ”

กรรัมภาเดินหนีไปเขินๆ จุนจีมองขำๆแกมเอ็นดู บอกพิมพิลาสว่า “ช่วยสนับสนุนผมด้วยนะครับคุณย่า”

“เล่นตัวไปเถอะ นังมือวิเศษ ยังไงก็หนีไม่รอดหรอก หลานชายฉันก็เสน่ห์แรงเหมือนฉันนั่นแหละ หึๆ”

พิมพิลาสมองทั้งสองยิ้มสมใจ

ooooooo

วันนี้กรรณาไปเยี่ยมพงอินทร์พร้อมกระเช้าผลไม้ และชุดสำหรับเปลี่ยนกลับบ้าน พงอินทร์ถามว่ารู้ใช่ไหมว่าตนจะได้กลับวันนี้แล้วยังซื้อผลไม้มาทำไม เลยถูกงอนหาว่าอุตส่าห์ทำให้ยังไม่เห็นน้ำใจกัน

พงอินทร์อ้อนกรรัมภาให้พาเข้าห้องน้ำเพื่อเปลี่ยนเสื้อผ้า กรรัมภารู้ทันไม่พาไป น้ำหนึ่งเข้ามาพอดีเลยเสียบแทนเสียเลย พงอินทร์ผิดหวังแต่ก็หันยิ้มสมน้ำหน้ากรรัมภาที่ถูกเสียบ

“จู่ๆ ก็มีตำรวจสองนายเดินเข้ามาถามว่า “คุณกรรณาใช่ไหมครับ สารวัตรณัฐเดชส่งพวกเรามาช่วยคุณครับ”

น้ำหนึ่งอึ้ง เสียวสันหลังวาบกรรณาชี้แจงกับพงอินทร์ว่าตนเป็นคนขอให้ณัฐเดชส่งตำรวจมา ช่วยตามคดีนี้ ให้เหตุผลกับพงอินทร์ที่ยังอึ้งๆว่า

“ถ้าสันนิษฐานฉันถูกต้อง นักเลงพวกนั้นต้องเป็นคนของช่อเพชร...และถ้าเราจับตัวพวกมันได้ เราก็อาจจะสาวถึงตัวช่อเพชร”

“โจ้ไม่คิดบ้างเหรอว่ามันจะทำให้เรื่องยุ่งยากขึ้น” น้ำหนึ่งถาม ถูกกรรณาซักว่ายุ่งยังไง? “ก็...ถ้าเรื่องนี้ไปเข้าหูช่อเพชร แล้วเขาโกรธที่เราตามจิกเขาไม่เลิก เขาอาจจะทำอะไรที่หนักข้อยิ่งกว่าเดิม ครั้งหน้าคนที่จะโดนอาจจะไม่ใช่โจ้ ฉันกลัว ฉันไม่อยากตาย” น้ำหนึ่งบีบน้ำตาน่าสงสาร

กรรณาสวนไปว่า “ฉันไม่กลัว” ก็ถูกน้ำหนึ่งเสียงดังใส่ว่าตนกลัว เพราะช่อเพชรเคยขู่เอาชีวิตตน และถ้ารู้ว่าตนช่วยเหลือพวกเธอ ตนอาจเจอแบบที่พงอินทร์เจอก็ได้ พูดแล้วโวยวาย “ฉันกลัว...ฉันไม่อยากตาย”

อ่านละคร สื่อรักสัมผัสหัวใจ 2 ตอนที่ 16 วันที่ 28 ต.ค. 56

บทประพันธ์โดย:ณารา/ร่มแก้ว/ซ่อนกลิ่น/เก้าแต้ม/แพรณัฐ จากบทละครโทรทัศน์ทางช่อง 3
บทโทรทัศน์ : ทิพย์ธิดา ศรัทธาทิพย์, สุธิสา วงษ์อยู่, เบญจมาศ ดาลหิรัญรัตน์, ศักดิ์ชาย เกียรติปัญญาโอภาส, โรจนินทร์ และ ณัชชานิษฐ์ จิรรุ่งโรจน์
สื่อรักสัมผัสหัวใจ 2กำกับการแสดง : ตระกูล อรุณสวัสดิ์
สื่อรักสัมผัสหัวใจ 2 ผลิต : ค่ายชลลัมพี โปรดั๊กชั่น จำกัด
สื่อรักสัมผัสหัวใจ 2 แนวละคร : คอเมดี้
สื่อรักสัมผัสหัวใจ 2 วันเวลาออกอากาศทุกวันศุกร์ -เสาร์ และอาทิตย์ เริ่มเวลา 20.15
ติดตามชมสื่อรักสัมผัสหัวใจ 2 ได้ทางไทยทีวีสีช่อง 3
ที่มา ไทยรัฐ

อ่านละคร สื่อรักสัมผัสหัวใจ 2 ตอนที่ 15 วันที่ 27 ต.ค. 56


ติณห์ เผชิญหน้ากับเบญจาที่ทางรถไฟ เบญจามาขวางติณห์ไม่ให้เข้าไปช่วยมิรันตี เธอตัดพ้อต่อว่าติณห์ว่าทำไมต้องหลอกตนด้วย ติณห์เลยย้อนเอาว่าคนที่เริ่มต้นหลอกก่อนก็คือเธอ แล้วสาธยายตั้งแต่ที่เธอแกล้งถูกรถญาณินชนจนกระทั่งเข้ามาอยู่ที่รีสอร์ต ด่าเธอว่า “แกล้งทำตัวใสซื่อ ทั้งที่ความจริงแล้ว เธอมันเป็นนางมารร้าย”

ขณะนั้น รถไฟแล่นใกล้เข้ามาทุกที มิรันตีก็ยัง คงเดินเคลิ้มอยู่บนทางรถไฟคิดว่าตัวเองควงคู่เดินไปกับรอบบี้ คิดส์ ติณห์พยายามจะหลบเบญจาไปช่วยมิรันตี ถูกสมคิดโผล่มาขวางอีกคน ติณห์ชะงัก สมคิดฉวยโอกาสที่ติณห์ยืนขาตายซัดหมัดเข้าสีข้างติณห์จนตัวงอ ท้าให้ลุกขึ้นมาสู้กัน


รถไฟใกล้เข้ามาทุกที มิรันตียังอยู่ในภวังค์ ในขณะที่เบญจาก็ขัดขวางถ่วงเวลาติณห์ ถามว่าทำไมถึงไม่รักตน ติณห์ตอบอย่างไม่แยแสว่า

“ฉันไม่มีวันรักเธอ ฉันรักญาณินคนเดียว ต่อให้ฉันต้องตาย ฉันก็ยอมตายแบบรักเดียวใจเดียว”

เบญจาฟังแล้วยิ่งแค้น ติณห์พยายามลุกขึ้นจะไปช่วยมิรันตี ญาณินวิ่งเข้ามาพอดี เบญจาเห็นดังนั้นพุ่งเข้าหา ชักมีดจ่อคอญาณิน เย้ยติณห์ว่า

“รักมันมาก งั้นก็เลือก จะไปช่วยแม่หรือคนที่แกรัก!”

รถไฟแล่นใกล้เข้ามากแล้ว ญาณินตะโกนบอกติณห์ว่าไม่ต้องห่วงตนให้รีบไปช่วยมิรันตี แล้วหันไปสู้กับเบญจาแบบไม่มีใครยอมใคร ณัฐเดชกับหมอวรวรรธก็ต่อสู้กับสมคิด ขวางสมคิดไว้เพื่อให้ติณห์ไปช่วยมิรันตี

ติณห์พุ่งเข้าไปดึงมิรันตีออกจากทางรถไฟ เธอดิ้นไล่ตะเพิดไม่ให้มายุ่ง ระหว่างนั้นเบญจาถูกญาณินเตะมีดหลุดจากมือ แต่เบญจาคว้ามีดได้แล้วเสกอาคมสลัดมีดใส่ญาณิน ติณห์ตกใจละล้าละลังจะไปช่วยใครก่อนระหว่างแม่กับคนรัก

“ไม่มีเวลาแล้ว แกช่วยได้แค่คนเดียว แกเลือกเอาว่าแกจะช่วยใคร เร็ว!” คุณหลวงลุ้น

ติณห์ตัดสินใจพุ่งเข้าคว้าตัวมิรันตีออกมาได้ก่อนถูกรถไฟชน มิรันตีหมดสติไปทันที เมื่อรถไฟแล่นผ่านไป ติณห์หันมองญาณิน เธอหายไปแล้ว เพราะหมอวรวรรธช่วยดึงเธอออกไปอีกด้านหนึ่งของทางรถไฟ

ทุกคนปลอดภัย แต่พอมองหาพวกสมคิด ปรากฏว่าทั้งสมคิด เบญจา และกรกฎ หายไปอย่างไร้ร่องรอย!

ooooooo

อติเทพ ทนายสมชาย และอรวี นั่งรอการตอบรับจากจุนจีอยู่ที่สำนักงานทนายความ แต่ไม่เห็นจุนจีมา

คนที่ทนายสมชายให้ไปติดตามการเคลื่อนไหวของจุนจีโทร.เข้ามาแจ้งว่า จุนจีออกจากโรงแรมตั้งแต่เช้าและไปที่สำนักของอาจารย์คงแล้ว

“ไอ้ตัวแสบ!” อติเทพคำรามฉุนขาด ลุกออกจากห้อง พูดอย่างเจ็บใจว่าจุนจีไม่รู้จักสำนักอาจารย์คง “มัน จะโผล่หัวไปที่นั่นได้ยังไง ถ้าไม่ใช่เพราะไอ้อาจารย์หน้าเงินบอก”

“แสดงว่าไอ้อาจารย์คงมันอยากได้เงิน และมันคงรู้ว่าผีพิมพิลาสนั่นเป็นย่าใคร มันเลยติดต่อโดยตรงกับเจ้าตัวเพราะหวังเอาเงินค่าจ้างที่มากกว่าเรา” ทนายสมชายคาดการณ์

“มันอยากลองดีกับฉัน ฉันก็จะจัดให้”

อติเทพหยิบปืนจากกระเป๋าพรวดพราดออกไป อรวีกับทนายสมชายรีบตาม

ooooooo

จุนจีกับลีจองกุ๊ก ปลอมตัวเป็นนักธุรกิจเกาหลีเข้าไปกราบอาจารย์คงที่สำนัก แนะนำตัวแก่อาจารย์คงว่า มาจากสถานีโทรทัศน์ท้องถิ่นของประเทศเกาหลี ตอนนี้ที่เกาหลีกำลังเห่อเมืองไทยมาก ผู้อำนวยการจึงอยากสร้างรายการโทรทัศน์เกี่ยวกับเมจิกไทย

ระหว่างที่ลีจองกุ๊กกำลังเจรจากับอาจารย์คงนั้น จุนจีก็กวาดตามองหาขวดที่กักวิญญาณพิมพิลาสไปเนียนๆ

“เพื่อนคนไทยของผม แนะนำว่าอาจารย์เป็นสุดยอด ของ พ.ศ.นี้ รู้ทุกวิชาอาคมอิทธิฤทธิ์เหาะเหินเดินอากาศ อภินิหารมากมาย เราก็เลยอยากมาเชิญอาจารย์ไปเป็นพิธีกรประจำรายการที่เกาหลีครับ”

อาจารย์คงมีทีท่าสนใจ ลีจองกุ๊กอ่อยต่อไปว่า อาจารย์คงจะต้องเดินทางไปเกาหลีเดือนละสองหน ค่าตอบแทนหนละห้าแสน มีผู้ติดตามให้สองคน แล้วจุนจี ก็โชว์รูปสาวเกาหลีเอ็กซ์ๆในไอแพดสองคนให้ดู

“ส่วนเรื่องลุคของอาจารย์ไม่ต้องห่วง เกาหลีซ่อมได้” จุนจีอ่อยแล้วโชว์รูปหน้าอาจารย์คงที่ออกแบบให้ดู

อาจารย์คงเคลิ้มทั้งเรื่องเงินทอง ผู้ติดตามสาวเอ็กซ์สองคนและลุคใหม่ที่ดูหล่อใสเป็นเกาหลีมากๆ

“มีทั้งชื่อเสียง เงินทอง เกียรติยศ และชะนีเพศ” ลีจองกุ๊กกล่อม จุนจีแก้ให้ว่าสตรีเพศ ไม่ใช่ชะนีเพศ ลีจองกุ๊กยิ้มแหยๆแล้วอ่อยต่อ “รับรองภายในปีเดียว อาจารย์จะรวยมากจะมีเงินซื้อรถเบนซ์แจกเจ้าสำนักอื่นๆได้เป็นร้อย จะมีบ้านบนเนินเขาในต่างประเทศ และถ้าอยากมีเครื่องบินเจ็ตส่วนตัวก็ไม่ยาก”

ลีจองกุ๊กกล่อมจนอาจารย์คงเคลิ้มแล้ว จุนจีจึงโชว์เช็คสั่งจ่ายล่วงหน้าสองล้าน ขอแค่อาจารย์ตอบตกลงก็รับไปเลย

อาจารย์คงพูดอย่างไว้เชิงว่า ตนไม่อยากได้ชื่อเสียงเงินทอง แต่สงสารทั้งสองที่ข้ามน้ำข้ามทะเลมา จะลองดูก็ได้ จุนจีบอกว่าบอสของพวกตนมาด้วย อาจารย์ต้องแสดงเมจิกเล็กๆน้อยๆ ให้บอสเซย์เยสก่อนแล้วอาจารย์จะได้ทุกอย่าง

แม้จะขัดใจแต่อยากได้เงิน อาจารย์คงถามหาบอสของทั้งสอง พลันไตรรัตน์ก็เข้ามาแบบเจ้าพ่อเซี่ยงไฮ้มีโอเวอร์โค้ตคลุมก็เข้ามาในมาด ขรึม บอกอาจารย์คงว่า “มีดีอะไรไหนโชว์มาซิ”

อาจารย์คงอยากอวดของอยู่แล้ว วางมาดขรึมเริ่มเอาของขลังมาวาง มีทั้งน้ำมันพราย ควายธนู รักยม ข้าวสารเสก และใบหนาดแห้ง แต่เพราะจุนจียังมองหาไม่เห็นขวดกักวิญญาณพิมพิลาส เลยแกล้งถ่วงเวลาถามว่ามีแค่นี้เองหรือ

“ใช่่...ทำไม...จะเอาอะไรอีกงั้นเหรอ” อาจารย์คงเริ่มเสียงกระด้าง จุนจีเล่าว่าตนเคยดูหนังผีไทย หมอผีชอบจับผีใส่หม้อเอาไปถ่วงน้ำถามว่าอาจารย์มีไหม อาจารย์คงบอกว่ามี แล้วหันไปหยิบหม้อดินเผาแบบในหนังมาให้ดู จุนจีจำที่กุมาริกาบอกได้ว่า วิญญาณของพิมพิลาสนั้นถูกจับกักไว้ในขวด จึงบอกอาจารย์คงว่าไม่ใช่ อาจารย์คงชักหงุดหงิด “นี่ไงหม้อ จะเอาอะไรอีก แล้วตกลงเจ้านายเอ็งอยากให้ข้าโชว์อะไรบอกมา”

สถานการณ์เริ่มตึงเครียดจุนจีเองก็เริ่มอึกอัก ไตรรัตน์จึงขัดขึ้นว่า

“ฉันอยากเห็นการจับผีลงหม้อแบบสดๆ โชว์ให้ดูหน่อยได้ไหม” อาจารย์คงเริ่มเล่นแง่บอกว่า มันยาก ไตรรัตน์ปรามาสว่า “หรือว่าไม่เก่งจริง เลยทำแบบนั้นไม่เป็น”

“อย่าวิ่งหนีก็แล้วกัน” อาจารย์คงพูดฉุนๆ คิดจะโชว์ศักยภาพให้เห็นจะจะไปเลย

อาจารย์คงทำพิธีเรียกบรรดาสัมภเวสี จนบรรยากาศข้างนอกที่พวกสุคนธรสสังเกตการณ์อยู่เกิดท้องฟ้าเปลี่ยนสี ลมพัดอื้ออึง

กรรัมภาเป็นห่วงพวกข้างในชวนสุคนธรสเข้าไปช่วย สุคนธรสบอกว่าเราต้องเชื่อมั่นในคนของเรา และดึงแขนกรรัมภาไว้

อาจารย์คงทำพิธีเรียกสัมภเวสีมาจนปั่นป่วนไปทั้งสำนักแล้วดูดวิญญาณเหล่านั้นเข้าไปในหม้อ เสร็จแล้วถามไตรรัตน์ว่า

“แค่นี้คงพอจะพิสูจน์ได้แล้วนะว่าข้าตัวจริง จะเซ็นสัญญาเลยไหม”

“ยัง...นี่มันผีเร่ร่อน มันกระจอก หมอผีไหนๆก็ทำได้ ฉันอยากเห็นอาจารย์โชว์ความสามารถมากกว่านี้ ที่ยากๆสักหน่อย” ไตรรัตน์เล่นแง่ถ่วงเวลาให้จุนจี

“บอสหมายถึง...อาจารย์น่าจะเรียกผีที่โหดๆมาปราบ อย่างพวกผี...ผีแม่ม่าย...ลูกหลานทอดทิ้งอารมณ์เกรี้ยวกราดอาจารย์มีไหม” จุนจีระบุอย่างมีเป้าหมาย

ได้ผล! อาจารย์คงหยิบขวดใส่วิญญาณพิมพิลาสที่ซ่อนอยู่ในแจกันใบใหญ่ จุนจีใจระทึกที่จะได้ช่วยย่าจ้องขวดใส่วิญญาณเขม็ง

ooooooo

พวกอติเทพมาถึงแล้ว! ตะบึงรถเข้ามา จนญาณิน กรรัมภาและเนตรสิตางศุ์พากันหลบหลังต้นไม้กันแทบไม่ทัน

ประตูสำนักถูกถีบผางประตูเปิดผัวะ! อติเทพ อรวีและทนายสมชายพรวดเข้ามา ไตรรัตน์และลีจองกุ๊กผงะ จุนจีตกใจ กลัวเสียแผนเพราะอติเทพรู้จักตน

“แก!...ไอ้หมอผีไร้จรรยาบรรณ แกรับปากแล้วว่าจะทำงานให้ฉันแต่กลับคิดจะแทงข้างหลังฉันงั้นเหรอ ไอ้ชั่ว!” อติเทพด่าและกล่าวหาอาจารย์คงว่า นัดจุนจีมาพบเพราะรู้ว่าจุนจีเป็นหลานชายคนเดียวของพิม–พิลาส ทำให้อาจารย์คงรู้ฐานะที่แท้จริงของจุนจีที่ปลอมตัวมา ชี้หน้าด่าว่าจุนจีหลอกตน

อติเทพยิงอาจารย์คงแต่กระสุนกลับหยุดกลางอากาศตรงหน้าอาจารย์คงเพราะวิญญาณ สัมภเวสีห้อมล้อมไว้เป็นเกราะกำบัง อติเทพยิ่งบ้าดีเดือดจะยิงซ้ำ ถูกลูกน้องสองคนของอาจารย์คงจู่โจมเข้าจับบิดแขน กดลงกับพื้นแล้วอาจารย์คงก็ท่องอาคมใส่ทันที อติเทพปวดเนื้อตัวร่างกายปรากฏรอยแดงเป็นปื้นช้ำเลือดช้ำหนองลามไปอย่างเร็ว จนทั่วตัวเจ็บปวดสาหัส

“ร่างกายมันจะค่อยๆเน่าจากอวัยวะภายในทีละส่วน...ทีละส่วนจนเน่าไปหมดทั้ง ตัว...ทางที่ดีถ้าอยากรักษาชีวิตเอาไว้รีบตัดแขนข้างที่เน่าทิ้งเสีย มันจะได้ไม่ลุกลามไปที่อื่น” อาจารย์คงขู่

อ่านละคร สื่อรักสัมผัสหัวใจ 2 ตอนที่ 15 วันที่ 27 ต.ค. 56

บทประพันธ์โดย:ณารา/ร่มแก้ว/ซ่อนกลิ่น/เก้าแต้ม/แพรณัฐ จากบทละครโทรทัศน์ทางช่อง 3
บทโทรทัศน์ : ทิพย์ธิดา ศรัทธาทิพย์, สุธิสา วงษ์อยู่, เบญจมาศ ดาลหิรัญรัตน์, ศักดิ์ชาย เกียรติปัญญาโอภาส, โรจนินทร์ และ ณัชชานิษฐ์ จิรรุ่งโรจน์
สื่อรักสัมผัสหัวใจ 2กำกับการแสดง : ตระกูล อรุณสวัสดิ์
สื่อรักสัมผัสหัวใจ 2 ผลิต : ค่ายชลลัมพี โปรดั๊กชั่น จำกัด
สื่อรักสัมผัสหัวใจ 2 แนวละคร : คอเมดี้
สื่อรักสัมผัสหัวใจ 2 วันเวลาออกอากาศทุกวันศุกร์ -เสาร์ และอาทิตย์ เริ่มเวลา 20.15
ติดตามชมสื่อรักสัมผัสหัวใจ 2 ได้ทางไทยทีวีสีช่อง 3
ที่มา ไทยรัฐ